*ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30น.*

02 ตุลาคม 2557, 06:46น.


+++สถานการณ์การสู้รบระหว่างชาติตะวันตกเพื่อปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอังกฤษ 2 ลำเปิดฉากโจมตีกลุ่มไอเอส ในอิรักด้วยการทิ้งระเบิดถล่มฐานปืนใหญ่และรถบรรทุกติดอาวุธของกลุ่มไอเอส เป็นการโจมตีทางอากาศครั้งแรกเพื่อสนับสนุนรัฐบาลอิรัก



+++นางบาร์บารา เฮนนิ่ง ภรรยานายอลัน เฮนนิ่ง คนขับแท็กซีชาวอังกฤษ ที่ถูกกลุ่มไอเอสจับขณะอาสาขับรถบรรเทาทุกข์ในซีเรียได้ขอร้องอีกครั้งให้กลุ่มไอเอสปล่อยตัวสามีของเธอ.



+++คณะทำงานด้านให้การช่วยเหลือประเทศอิรักขององค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอเอ็มไอ) แถลงการณ์ว่า เหตุรุนแรงในอิรักในเดือนกันยายน  มีชาวอิรักเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 1,119 ศพ และบาดเจ็บอีก 1,946 คน กรุงแบกแดด เป็นเมืองที่มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตมากที่สุด  ตามด้วยจังหวัดซาลาฮูดิน, เคอร์คุ๊ก, ดิยาลา และนิเนเวห์ สำหรับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในอิรักรุนแรงมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เมื่อเริ่มเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังรัฐบาลอิรักกับกลุ่มติดอาวุธไอเอสหลายร้อยคน ต่อมากลุ่มไอเอสได้ยึดเมืองโมซูลทางภาคเหนือของประเทศและอีกหลายพื้นที่ของอิรัก



 +++ไปที่ซีเรีย สำนักข่าวซานาของทางการซีเรีย รายงานว่าเหตุระเบิดรถยนต์ 2 ครั้งในย่านชุมชนที่โรงเรียนอัคราเมห์-อัลมัคซูมี และโรงพยาบาลซาอิม ในจังหวัดฮอมส์ทางภาคกลางของซีเรีย  มีคนเสียชีวิต เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 30 ศพ ส่วนใหญ่เป็นเด็กๆและมีผู้บาดเจ็บอีก 56 คน ระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น ทีมกู้ภัยได้เข้าไปเก็บกู้ศพไปจากที่เกิดเหตุและมีผู้บาดเจ็บหลายคนอยู่ในอาการที่สาหัส



+++ส่วนที่กรุงคาบูล ของอัฟกานิสถาน มือระเบิดฆ่าตัวตายปลดชนวนระเบิดโจมตีรถบัสขนส่งทหาร มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 7 นาย บาดเจ็บ 21 นายเหตุระเบิดครั้งแรกเป็นการโจมตีรถบัสขนส่งทหารของกองทัพแห่งชาติ หลังเกิดเหตุกลุ่มตอลิบาน อ้างว่าเป็นผู้ลงมือ  เหตุรุนแรงเกิดขึ้นหลังสหรัฐลงนามความมั่นคงกับอัฟกานิสถานว่าด้วยการคงทหารเอาไว้ หลังจากที่ทหารสหรัฐและนาโตจะถอนทหารทั้งหมดออกไปในสิ้นปีนี้



+++สถานการณ์ในฮ่องกง สถานีข่าว “โรสสิยา 24”ที่มีรัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของกล่าวตำหนิสหรัฐว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและคอยวางแผนการให้กับการประท้วงในฮ่องกงเพื่อต่อต้านรัฐบาลจีน  โดยการประท้วงมีรูปแบบคล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในยูเครนมาก่อน  ผู้ประกาศข่าวของช่องดังกล่าว เปิดเผยว่า จากรายงานของสื่อจีนระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่แกนนำการประท้วงในฮ่องกงจะได้รับการฝึกฝนพิเศษมาจากหน่วยสายลับของสหรัฐ และเกี่ยวข้องกับกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แม้จีนจะเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง แต่ก็ไม่ได้ออกมากล่าวหาอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งนี้ สื่อรัสเซียยังได้กล่าวถึงวิดีโอที่ถูกถ่ายโดยผู้ประท้วงที่เป็นผู้หญิงซึ่งมีลักษณะคล้ายกับวิดีโอที่ถูกถ่ายโดยผู้ประท้วงผู้หญิงเช่นกัน ซึ่งได้รับการนำออกฉายช่วงประท้วงยูเครน นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสงสัยว่า ผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและนักเรียน สามารถจัดระเบียบการชุมนุมขนาดใหญ่แบบนี้ได้อย่างไรแม้กระทั่งการถ่ายภาพเหตุการณ์ที่เป็นแบบทันทีทันใดด้วยสมาร์ทโฟนของเหล่านักศึกษา ที่เหมือนได้รับการสั่งสอนเป็นพิเศษมา ไม่ใช่สิ่งที่ได้เรียนรู้จากโรงเรียน แม้กระทั่งกรณีการใช้ร่มกางเพื่อป้องกันแก๊สน้ำตา ที่ต้องสงสัยว่า นักศึกษาเอาวิธีรับมือนี้มาจากไหน  นักวิเคราะห์บางราย เปิดเผยว่า เหตุที่สหรัฐคอยอยู่เบื้องหลังก็เป็นเพราะต้องการมุ่งร้ายต่อจีน เนื่องจากจีนสนับสนุนรัสเซียในจุดยืนเรื่องยูเครน นอกจากนี้ ยังต้องการทำลายเสถียรภาพของจีน เนื่องจากเมื่อรัสเซียถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจก็หันไปพึ่งพาจีนและโลกตะวันออกให้เป็นตัวเลือกทางการเงินมากยิ่งขึ้น



+++ประธานสหพันธ์นักศึกษาฮ่องกง ยื่นคำขาดให้ทางการฮ่องกงตอบสนองข้อเรียกร้องภายในวันนี้ ไม่เช่นนั้นการเคลื่อนไหวจะยกระดับขึ้น โดยเรียกร้องให้นายเหลียง ชุน อิง หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตฮ่องกง ไม่ยอมลาออกแต่โดยดีภายในวันพฤหัสบดีนี้ จะยกระดับการประท้วงรวมทั้งการบุกยึดอาคารรัฐบาลที่สำคัญหลายแห่ง ซึ่งเท่ากับเป็นการซ้ำเติมความขัดแย้งให้ร้อนระอุมากขึ้น



+++ด้านนางเจน ซากี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า นายจอห์น แคร์รีรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐและนายหวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน จะหารือกันเกี่ยวกับวิกฤติการเมืองในฮ่องกงที่กำลังบานปลาย จากการประท้วงโดยผู้ประท้วงยึดย่านธุรกิจของฮ่องกงมาตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์และผู้ประท้วงหลายหมื่นคนปฏิเสธข้อเรียกร้องจากนายเหลียง ให้ยุติการประท้วงส่วนที่รัฐสภาสหรัฐสมาชิกต่างวิจารณ์ตำรวจฮ่องกงที่ใช้แก็สนั้ำตาในความพยายามที่ล้มเหลวในการสลายผู้ประท้วงเมื่อสุดสัปดาห์



 +++ไปที่ออสเตรเลีย กลุ่มนักเคลื่อนไหว 350 ดอท โออาร์จี (350.org) และกลุ่มผู้ประท้วงจากประเทศแปซิฟิกใต้ 12 ประเทศ แถลงกำหนดการชุมนุมประท้วงโดยการใช้เรือเล็กลอยลำขวางทางเข้าออกของเรือสินค้า ที่ท่าเรือนิวคาสเซิล ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ในวันที่ 17 ต.ค. นี้ท่าเรือนิวคาสเซิลนับเป็นจุดขนส่งถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยกว่าร้อยละ 90 ของเรือสินค้ากว่า 4,000 เที่ยวที่เข้าออกที่นี่ เป็นเรือขนส่งถ่านหิน โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหว กล่าวว่า การบริโภคถ่านหินเป็นสาเหตุสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมีผลทำให้เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว อัตราความถี่และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของการเกิดพายุ รวมถึงระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย ซึ่งเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อกลุ่มประเทศแปซิฟิกใต้ ที่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่มาก.



+++ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา ในกรุงพนมเปญ ลงมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ทั้ง 120 เสียง รวมถึง นายกรัฐมนตรี ฮุนเซน นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) และ นายสม รังสี หัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) ในการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการปฏิรูปคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ (เอ็นอีซี) เพื่อให้การเลือกตั้งโปร่งใส เอ็นอีซี ชุดใหม่จะทำงานอย่างอิสระและเป็นกลาง ขณะที่ นายสม รังสี กล่าวว่า ถือเป็นการก้าวไปข้างหน้า เอ็นอีซี ชุดใหม่จะรับประกันการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะเป็นประชาธิปไตย อิสระและยุติธรรม และทั้งหมดนี้จะถูกกำหนดไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกคนจะต้องเคารพและปฏิบัติตาม.



+++หนังสือพิมพ์รายวันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ "เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส" ประกาศแผนจะปลดผู้สื่อข่าวประจำกองบรรณาธิการอีกร้อยละ 7.5 หรือประมาณ 100 คน จากทั้งหมดที่มีอยู่ 1,330 คน เพื่อลดค่าใช้จ่าย และสานต่อการลงทุนทางด้านดิจิตอล ขณะที่ รายได้จากค่าโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ลดลง และผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง  



+++องค์กรเพื่อผู้สูงอายุ "เฮลป์ เอจ อินเตอร์เนชันแนล" (HelpAge International) เผยแพร่ดัชนีผู้สูงอายุ (Global AgeWatch index) ประจำปี 2557 ระบุว่า จากการสำรวจใน 96 ประเทศ นอร์เวย์เป็นประเทศที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุมากที่สุด  รองจากนอร์เวย์ในลำดับที่ 2-10 ได้แก่ สวีเดน ซึ่งเป็นแชมป์เก่า สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ส ไอซ์แลนด์ สหรัฐ ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ จะเห็นว่า 9 ใน 10 อันดับแรกล้วนอยู่ในยุโรปตะวันตก อเมริกาเหนือ และออสเตรเลีย มีเพียงญี่ปุ่นในอันดับที่ 9 เพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่อยู่ในเอเชีย ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ในทวีปแอฟริการั้งอันดับท้ายๆ โดย 10 อันดับสุดท้ายได้แก่ อิรัก แซมเบีย ยูกันดา จอร์แดน ปากีสถาน แทนซาเนีย มาลาวี เวสต์แบงก์และฉนวนกาซาของปาเลสไตน์ โมซัมบิก และอัฟกานิสถาน วัดจากตัวบ่งชี้ 13 ข้อ ได้แก่ ความมั่นคงของรายได้ สุขภาพ ศักยภาพซึ่งรวมถึงการจ้างงานและการศึกษา และสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ซึ่งรวมถึงความปลอดภัยต่อร่างกาย โดยเฮลป์เอจ เปิดเผยว่า การเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศอย่างเดียว ไม่เพียงพอต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ แต่รัฐควรต้องมีนโยบายเฉพาะ ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญและความหมายของความสูงวัย



+++ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดลบอย่างแรง จากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ผสมผสานของสหรัฐท่ามกลางความกังวลต่อการเติบโตเศรษฐกิจโลก และกรณีพบผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกในสหรัฐ ดาวโจนส์ ลดลง 238.19 จุด  ปิดที่ 16,804.71 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 26.13 จุด  ปิดที่ 1,946.16 จุด แนสแดค ลดลง 71.30 จุด  ปิดที่ 4,422.09 จุด



+++ราคาน้ำมันยังลงต่อเนื่อง หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปีเมื่อเทียบกับยูโร สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 43 เซนต์ ปิดที่ 90.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 51 เซนต์ ปิดที่ 94.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2012



+++ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้ ปิดบวกเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,215.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์



 



 

ข่าวทั้งหมด

X