*รัฐบาลไม่สอดแนมแอพ"ไลน์"คนไทย/ปปช. ยืนยันถอดถอนนักการเมือง/สร้างทางยกระดับแก้รถติดพหลฯ

30 กันยายน 2557, 20:15น.


สรุปข่าว 19.35 น.



+++ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายในเรื่องนี้ ไม่ละเมิดสิทธิประชาชน และเชื่อว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้ว  เช่นเดียว พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลหรือคสช.ไม่มีนโยบายดังกล่าว ไม่ทำอย่างเด็ดขาด เพราะการทำแบบนี้เท่ากับเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ยืนยันรัฐบาลไม่มีนโยบายไปเจาะข้อมูลไลน์ประชาชน เพราะการกระทำดังกล่าวไม่ได้ส่งผลดีต่อการทำงานรัฐบาลเลย



ก่อนหน้านี้ มีการปล่อยข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า “แจ้งมาเพื่อทราบ ตั้งแต่ 1 ต.ค.57 ใช้ไลน์มั่วไม่ได้แล้ว เนื่องจากทางการไทยขอเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เนื่องจากมีบุคคลละเมิดสถาบัน ผู้ผลิตไลน์ในประเทศญี่ปุ่นเห็นว่า เป็นการหมิ่นประมาทด้วยเช่นกัน จีงอนุญาตให้รัฐบาลไทยและคสช.เข้าถึงข้อมูลในไลน์ได้ ทีมงานไอซีทีของ คสช.ตั้งทีมงานตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้



+++หลังสภานิติบัญญัติแหงชาติ หรือสนช.ส่งเรื่องการถอดถอน อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ประธานวุฒิสภากลับมาให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ปปช. พิจารณา เนื่องจากไม่มีรัฐธรรมนูญปี 2550แล้ว  นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช.ในฐานะโฆษกสำนักงานป.ป.ช.เปิดเผยว่า  คณะกรรมการป.ป.ช.เสียงข้างมากเห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นการดำเนินการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2542มาตรา64ประกอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว)พุทธศักราช2557มาตรา6วรรคสอง ซึ่งระบุให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร  วุฒิสภาและรัฐสภาซึ่งมีมติให้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังประธานสภานิติบัญญัตแห่งชาติเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป



++++นอกจากนี้คณะกรรมการป.ป.ช.ยังมีมติเป็นหลักการเกี่ยวกับกรณีถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเช่นการถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี กรณีถอดถอนอดีตสมาชิกวุฒิสภาจำนวน39รายรวมทั้งการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆด้วยว่า หากเป็นการกล่าวหาว่าผู้ถูกกล่าวหาส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่นตามมาตรา58แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2552ก็อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป.ป.ช.ที่จะดำเนินการไต่สวนต่อไป จึงให้พนักงานเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลในเรื่องดังกล่าวแล้วเสนอคณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง



+++ศาลปกครองกลาง นัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด พล.อ.นพดล อินทปัญญา ผู้ฟ้องที่ 1 และพวกรวม 28 คน กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ถูกฟ้อง เรื่องขอให้วินิจฉัยเพิกถอนมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ให้ สนช.ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.และให้ประกาศเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อสาธารณชน โดยผู้ฟ้องคดีเห็นว่า สนช.มิได้มีฐานะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น  ทั้งนี้  ศาลมีคำสั่งเห็นพ้องด้วยกับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น ที่ไม่รับคำฟ้องของผู้ฟ้องคดีทั้ง 28 คนไว้พิจารณา จึงไม่จำเป็นต้องพิจารณาคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง และคำร้องขอให้ศาลปกครองสูงสุดไต่สวนฉุกเฉินของผู้ฟ้องทั้ง 28 คนอีก



+++ที่ประชุมคณะทำงานติดตามการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทนพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การดำเนินการก่อสร้างสถานีตำรวจทั้ง 181 แห่ง ได้ผู้ผ่านการประมูลครบแล้ว ขาดเพียง 1 แห่ง ที่สถานีตำรวจภูธรสาวชะโงก จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเตรียมประกวดราคาในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ส่วนความคืบหน้าเรื่องการตรวจสอบและรวบรวมความเสียหายจากบริษัทพีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมา ที่ไม่สามารถก่อสร้างสถานีตำรวจในรอบงบประมาณตามกำหนดต้องใช้ระยะเวลา 3-4 เดือน เพื่อรวบรวมค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด



+++ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการจัดรายการรายการคืนความสุขให้กับคนในชาติสัปดาห์นี้ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ว่าวันที่ 2 ต.ค.นายกฯ จะใช้ห้องรับรองพิเศษ ชั้น 1 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ทำการบันทึกเทปรายการเป็นครั้งแรก หลังเกษียณอายุราชการจากตำแหน่งผบ.ทบ.และหลังจากใช้บก.ทบ.บันทึกเทปมาโดยตลอด เบื้องต้นนายกฯยังคงใช้ชื่อรายการ“คืนความสุขให้กับคนในชาติ” ออกวัน เวลาเดิม คือทุกวันศุกร์ เวลา 20.15 น.แต่เปลี่ยนผู้ผลิตจากเดิมให้สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5  มาเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ (เอ็นบีที) เป็นผู้ผลิตรายการแทน



+++นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า เศรษฐกิจในปีนี้น่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ถึง ร้อยละ2 ของจีดีพี เพราะในช่วงต้นปี ประเทศไทยมีปัญหาการเมืองภายในประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวในหลายประเทศ แต่ในปีหน้า คาดว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 4.5 สูงกว่าประมาณการของหลายสำนักวิเคราะห์ เนื่องจากรัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปีหน้า  โดยรัฐบาลจะพยายามเร่งการใช้จ่ายเงินงบประมาณ โดยเฉพาะงบค้างท่อ และตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. จะเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 เข้าสู่ระบบมากขึ้น รวมถึงงบลงทุนรัฐวิสาหกิจและการอนุมัติโครงการต่างๆ จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนในปีหน้าปีดีกว่าปีนี้อย่างแน่นอน



+++การแก้ไขวิกฤติจราจรย่านพหลโยธิน นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มอบหมายให้กทพ.ไปหารือกับบริษัททางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BECL ถึงความเป็นไปได้ในการก่อสร้างทางยกระดับเพื่อเชื่อมต่อเส้นทางยกระดับจากอาคารศูนย์คมนาคมพหลโยธิน บริเวณสถานีกลางบางซื่อเข้าสู่ทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ในการแก้ไขปัญหาด้านการจราจรที่แออัด และเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในพื้นที่ย่านพหลโยธินและสถานีกลางบางซื่อที่มีแผนเปิดให้บริการอีกไม่กี่ปีนี้ในโครงการรถไฟสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน โดยจะใช้พื้นที่ ด้านลานจอดรถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ในปัจจุบันเป็นจุดขึ้นทางด่วน สำหรับทางลงให้ใช้จุดทางลงที่มีอยู่แล้วได้ทันที คาดว่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 70 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะใช้งบประมาณจากส่วนใด แต่ถ้าสามารถเริ่มดำเนินการได้จริงก็จะเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป



+++การเร่งกำจัดขยะนายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยแนวคิดที่จะจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมกำจัดขยะอุตสาหกรรมขึ้น เพื่อรวบรวมธุรกิจการกำจัดขยะอุตสาหกรรมทั่วไป ขยะมีพิษ และของเสียต่างๆที่เกิดจากภาคอุตสาหกรรมมาไว้ในที่เดียวกัน เพื่อสะดวกในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ. ) และกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ไปศึกษาถึงความเป็นไปได้ของโครงการ รวมทั้งไปศึกษาแนวทางการดำเนินงานการกำจัดกากอุตสาหกรรมในยุโรป ที่มีเทคโนโลยีการกำจัดกากอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพ สามารถตั้งอยู่ภายในชุมชนได้อย่างไม่มีปัญหา เพื่อให้นิคมฯนี้ไม่ส่งผลประทบต่อชุมชนโดยรอบ อย่างไรก็ตามโครงการนี้จะต้องใช่เวลาในการศึกษาซึ่งอาจจะไม่ทันในรัฐบาลชุดนี้ แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการกำจัดขยะอุตสาหกรรมให้ถูกวิธีและมีความยั่งยืน



ต่างประเทศ



+++กรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบภายในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และยังมีการชุมนุมอย่างต่อเนื่องนั้น เรืออากาศโทสุรพล อิศรางกูร ณ อยุธยา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทำให้บริษัทฯ จำเป็นต้องปิดสำนักงานการบินไทย ฮ่องกง ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.-5 ต.ค.57 นี้ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณที่มีการชุมนุม เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าที่มาติดต่อกับสำนักงานฯ และเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งช่วงเวลาดังกล่าว เป็นวันชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และจะกลับมาเปิดทำการตามปกติในวันที่ 6 ต.ค.57 ส่วนการเปิดเส้นทางบินไป–กลับ กรุงเทพฯ–ฮ่องกง ยังให้บริการตามปกติ



+++นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ได้เปรียบเทียบกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ว่าคล้ายกับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม(ไอเอส)ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น)เมื่อวานนี้ ไม่กี่วันหลังจากประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสของปาเลสไตน์ เปรียบเทียบการทำของอิสราเอล โดยเฉพาะการสู้รบในเขตฉนวนกาซาเมื่อไม่นานมานี้ว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์  นอกจากนั้น ยังได้เรียกร้องให้ชาวโลกไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการถูกหลอกของอิหร่าน โดยเฉพาะกรณีการเดินหน้าโครงการสร้างอาวุธนิวเคลียร์  ด้านนายฮานัน อัชราวี กรรมการบริหารขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ กล่าวว่า คำกล่าวของนายเนทันยาฮู เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างชัดแจ้ง ระบุว่าการโยนความผิดให้แก่ผู้ประสบภัยจากสงครามในเขตฉนวนกาซาถือเป็นทุจริตทั้งในเชิงนโยบายการเมืองและศีลธรรม



หุ้นไทยและต่างประเทศ



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดลดลง0.12จุด  ที่1,585.67จุด   มูลค่าซื้อขาย49,519.30ล้านบาท



 +++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลดลง 137.12 จุด ที่ 16,173.52 จุด



 +++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาด ลดลง 296.23 จุด ที่ 22,932.98 จุด

ข่าวทั้งหมด

X