การยื่นเอกสารการขอจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ นายอุตตม สาวนายน ว่าที่หัวหน้าพรรค / นำทีมคณะว่าที่กรรมการบริหารพรรคเดินทางมาที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีนายสมพล พรผลผู้อำนวยการสำนักกิจการพรรคการเมืองเป็นผู้รับเรื่องโดยถือฤกษ์13.18 น.ในการยื่นหนังสือ นายอุตตม เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้มายื่นเอกสาร ขอจดจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ พร้อมยืนยันว่าเป็นไปตามกำหนดระยะเวลา ส่วนข้อสังเกตที่ว่าหากจดจัดตั้งพรรคหลังวันที่ 27 กันยายนอาจจะทำให้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ทัน ส่วนตัวคิดว่าไม่เป็นปัญหา เพราะได้เตรียมตัวมาพร้อมแล้ว อีกทั้งการทำงานของ กกต.มีความรวดเร็ว ซึ่งคิดว่าไม่เป็นปัญหาแน่นอน ส่วนตัวเชื่อว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะดำเนินการไปตามโรดแมปคือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562
ในระหว่างนี้ทางพรรคจึงได้เตรียมความพร้อมซึ่งคาดว่าจะส่งผู้สมัครลงทุกเขตการเลือกตั้ง ในขณะเดียวกันไม่ได้ห่วงข้อครหาหากกกต.ดำเนินการจดจัดตั้งพรรคเร็วกว่าพรรคอื่น เพราะทางพรรคไม่ได้มีบทบาทในการกำหนดระยะเวลา ส่วนรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคที่ยื่นในวันนี้ก็ไม่ได้มีรายชื่อใครเพิ่มเติมจากที่เคยประกาศไว้ในวันที่มีการเปิดตัวพรรค
ส่วนกรณีกลุ่มสามมิตร ประกาศจะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ นายอุตตมระบุว่า เรื่องนี้ต้องรอให้ กกต. จัดจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐเสร็จเสียก่อนจึงจะมีการพูดคุยกัน แต่ส่วนตัวมองว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีคนสนใจพรรค ส่วนกรณีที่มีอดีตสส.ที่จะมาเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้โดยขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน
สำหรับหลายฝ่ายที่มองว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่สืบทอดอำนาจ นายอุตตม กล่าวว่า ได้เคยชี้แจงไปแล้วว่าพรรคเป็นเพียงกลุ่มที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน เพื่อต้องการเห็นประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างยั่งยืน พร้อมยืนยันว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรคเพียงคนเดียว และพรรคไม่ได้เป็นตัวแทนของใคร ส่วนกรณีการดูดสส.จากพรรคอื่นมาเข้าร่วม นายอุตตมะได้กล่าวว่าส่วนตัวไม่ทราบเรื่องแต่มองว่า การที่อดีตส.สแต่ละพรรค สนใจที่จะเข้าร่วมพรรคเป็นเรื่องปกติของระบบประชาธิปไตย
ส่วนกระแสกดดันให้ 4 รัฐมนตรีลาออกรวมถึงคนในรัฐบาลด้วยนั้น นายอุตตม ยืนยันว่า ยังไม่ลาออกในตอนนี้ เพราะยังต้องทำงานแต่ทราบดีว่า จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ส่วนจะมีการลาออกเมื่อไหร่นั้น ขอให้รอเวลาที่เหมาะสมและเป็นไปตามกฎหมาย ตนเองก็จะออกมาปฏิบัติหน้าที่กับพรรคพลังประชารัฐอย่างเต็มตัว และยังมีคนให้กำลังใจรวมถึงนายกรัฐมนตรีที่ให้กำลังใจและขอให้ทำงานอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามนายอุตตมะ ไม่ได้สนใจคำพูดของนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่บอกว่า หากไม่ลาออกจะเป็นจุดเสื่อมทางการเมืองโดยระบุว่าเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของนายอภิสิทธิ์เท่านั้น ส่วนสมมติฐานที่ว่าจะต้องรวบรวมอดีตส.สมาให้ได้มากที่สุดเพื่อจะ สร้างการเมืองใหม่ โดยนายอุตตม บอกว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่าเป็นสมมติฐานของใครแต่ยืนยันว่าไม่ใช่ของพรรคพลังประชารัฐ