ทันสถานการณ์โลก ประจำวันที่ 27 กันยายน 2561:ไต้ฝุ่นจ่ามีขึ้นฝั่งไต้หวัน/เฟดขึ้นดอกเบี้ย/

ทันสถานการณ์โลก ประจำวันที่ 27 กันยายน 2561

+++สำนักพยากรณ์อากาศกลางของไต้หวัน รายงานว่าซุปเปอร์ไต้ฝุ่นจ่ามี พายุโซนร้อนลูกที่ 24 ของปีนี้ จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ไต้หวัน ระหว่างวันที่ 28-29 กันยายนนี้ แม้ว่าจะไม่ขึ้นฝั่งที่เกาะไต้หวันโดยตรง แต่อิทธิพลของพายุ คาดว่า จะส่งผลทำให้มีฝนตกหนักทั่วประเทศในช่วงดังกล่าว สำหรับทิศทางของพายุ เมื่อเวลา 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวานนี้ พายุอยู่ห่างจากแหลมเอ๋อหลวนปี๋ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 910 กม. เคลื่อนตัวอย่างช้าๆขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ และมีความแรงลมสูงสุดคือ 234 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือเทียบเท่าพายุเฮอร์ริเคนระดับ 5 หลังเคลื่อนตัวออกจากทะเลใกล้ไต้หวันแล้ว คาดว่า พายุจะมุ่งหน้าไปยังญี่ปุ่น ที่จังหวัดโอกินาวา ทางภาคใต้ของประเทศในวันเสาร์นี้ จากนั้นพายุจะเคลื่อนตัวไปทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่นในวันอาทิตย์นี้

+++โฆษกกงสุลใหญ่สหรัฐฯประจำฮ่องกง ระบุว่า รัฐบาลจีนไม่อนุมัติคำขอจากสหรัฐฯ เพื่อขอให้เรือโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก USS Wasp ของสหรัฐฯ แวะจอดที่ฮ่องกง นับเป็นการตอบโต้อย่างชัดเจนหลังสหรัฐฯคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งในกองทัพจีนเมื่อเร็วๆนี้ ด้านโฆษกกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ประจำฮ่องกง เปิดเผยว่า เรือรบดังกล่าว ขณะนี้ประจำการอยู่ที่ญี่ปุ่น ต้องการจะแวะจอดที่ท่าเรือฮ่องกงในเดือนหน้า จึงหวังว่าจะขอแวะจอดที่ฮ่องกงอีกในเดือนหน้า ด้านนายเกง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ไม่ยืนยันเรื่องนี้ระหว่างการแถลงข่าวในกรุงปักกิ่งว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ระบุเพียงว่า รัฐบาลจีน จะพิจารณาคำขอและอนุมัติเป็นครั้งๆ โดยพิจารณาเรื่องอำนาจอธิปไตยของจีนเป็นประเด็นหลัก

+++สื่อท้องถิ่นของตุรกี รายงานว่าประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันของตุรกี จะเดินทางเยือนกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี อย่างเป็นทางการในวันนี้ เพื่อพบกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ขณะที่ทั้งสองประเทศต้องการจะหาทางปรับปรุงความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น หลังการเปิดศึกวิวาทะมาหลายรอบหลังจากรัฐบาลเยอรมนี วิจารณ์กรณีรัฐบาลตุรกี สั่งดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความคิดเห็นแตกต่างกับรัฐบาล หลังการก่อรัฐประหารที่ล้มเหลวในปี 2560 แต่การเยือนครั้งนี้ อาจจะถูกบดบังความสำคัญพอสมควร เนื่องจาก ชุมชนชาวตุรกีกลุ่มหนึ่งราว 10,000 คน นัดประท้วงผู้นำตุรกีเรื่องการลิดรอนเสรีภาพของประชาชนและของสื่อมวลชนในตุรกีและการปราบปรามชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ดในซีเรีย

+++ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธ(26ก.ย.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี อัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ร้อยละ0.25 สู่ระดับ ร้อยละ2.00-2.25 ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้  ส่งผลทำให้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 106.93 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 26,385.28 จุด

+++ส่วนราคาน้ำมันดิบโลก สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 71 เซ็นต์ ปิดที่ 71.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 53 เซ็นต์ ปิดที่ 81.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เคลื่อนไหว หลุดระดับ 1,200 เหรียญสหรัฐ ต่อออนซ์ โดยอยู่ที่ 1,199เหรียญ 20 เซนต์ ต่อ ออนซ์

++++สถานการณ์สหรัฐกับนานาประเทศ นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เตือนรัฐบาลอิหร่านว่าอิหร่าน จะต้องได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ถ้าพวกเขากระทำการต่างๆที่สร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐฯ ทำร้ายพลเมืองอเมริกันหรือชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ระบุว่า ถ้าล้ำเส้นเมื่อใด อิหร่าน ก็จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงทันที เขาแสดงความเห็นเรื่องนี้ในที่ประชุมแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์ก ไม่กี่ชั่วโมง หลังประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานีของอิหร่าน ได้ขึ้นปราศรัยในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ(ยูเอ็น)ในนครนิวยอร์ก วิจารณ์รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯว่า มีทัศนคติในแง่ลบต่ออิหร่านมาโดยตลอด กล่าวหานายทรัมป์ ว่าใช้วิธีการทำสงครามจิตวิทยากับอิหร่าน พร้อมทั้งปฏิเสธว่าอิหร่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการก่อการร้าย ตามที่สหรัฐฯกล่าวหา

+++ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯเผยในวันพุธ(26ก.ย.) ว่าเขาจะนำเสนอแผนสันติภาพ 2 รัฐสำหรับตะวันออกกลางในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พร้อมส่งเสียงมั่นใจว่าปาเลสไตน์จะคืนสู่โต๊ะเจรจาแม้เขายังคงสนับสนุนอิสราเอลไม่เปลี่ยนแปลง เขาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวก่อนเข้าสู่การหารือกับ นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลในนิวยอร์ก นายทรัมป์บอกว่ามันคือฝันของเขาในการนำทางออกแห่งสันติภาพหนึ่งมาสู่ความขัดแย้งที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนก่อนๆพยายามหลีกเลี่ยง

+++พล.อ.โรเบิร์ต อับรัมส์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกำลังสหรัฐฯประจำเกาหลีใต้เตือนว่าเกาหลีเหนือ ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทั้งขอให้สหรัฐฯเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะภัยคุกคามจากการพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปและอาวุธนิวเคลียร์

+++พล.อ.อับรัมส์ กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมาธิการด้านกิจการทหารของวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อว่าเหมาะสมกับตำแหน่งระดับสูงในกองทัพสหรัฐฯหรือไม่

+++หลังมีผู้คัดค้าน 30 คนยื่นเรื่องให้ศาลฎีกาของอินเดีย มีคำสั่งชี้ขาดว่าโครงการบัตรบันทึกข้อมูลชีวมิติหรือ อาดฮาร ของรัฐบาลอินเดีย ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลของพลเมืองอินเดียหรือไม่  มีพลเมืองอินเดียกว่า 1,000 ล้านคนสมัครใช้บัตรดังกล่าว

+++ล่าสุดศาลฎีกาของอินเดีย มีคำชี้ขาดด้วยเสียงส่วนใหญ่คือ 3 ใน 5 เสียงว่า โครงการดังกล่าวของรัฐบาล ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและไม่ละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล ศาล ระบุว่า บัตรข้อมูลชีวภาพช่วยให้คนด้อยโอกาสรู้สึกว่ามีเกียรติและได้รับความสะดวกมากขึ้น และมีความสำคัญมากกว่าประเด็นเรื่องการคุ้มครองความเป็นส่วนตัว แต่รัฐควรจำกัดการดำเนินโครงการนี้ให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมคือ บริษัทเอกชน เช่น บริษัทให้บริการโทรศัพท์มือถือ,ธนาคารหรือสถาบันการศึกษาต่างๆไม่อาจจะขอทราบรหัสซึ่งเป็นตัวเลข 12 หลักจากลูกค้าหรือนักเรียนนักศึกษา เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ถือบัตรถูกหน่วยงานอื่นๆนำไปใช้โดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย และรัฐบาลควรเร่งออกกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอีกทางหนึ่งด้วย

+++สื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นว่า ตำรวจ จับกุมนางเอมิริ ซูซูกิ อายุ 49 ปี ในข้อหาทิ้งศพทารกไว้ในล็อคเกอร์หยอดเหรียญสำหรับฝากของ ที่สถานีรถไฟอูกุ อิซู ดานิ ในกรุงโตเกียว หลังจากที่เมื่อวานนี้ นางซูซูกิ เข้ามอบตัวกับตำรวจ และรับสารภาพว่าได้เก็บศพทารกในล็อคเกอร์ดังกล่าว นับตั้งแต่ทารกคลอดแล้วเสียชีวิต เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 4-5 ปีก่อน นางซูซูกิ เป็นคนว่างงาน บอกกับตำรวจว่าในตอนแรก เธอรู้สึกตกใจมากเมื่อคลอดลูกออกมาแล้วเสียชีวิต และไม่รู้จะจัดการอย่างไร แต่อีกใจหนึ่ง ก็ไม่อยากจะนำไปทิ้งจึงนำศพทารกไปเก็บไว้ในล็อคเกอร์ และชำระเงินค่าฝากของให้กับผู้ให้เช่าล็อคเกอร์มาตลอด มีอัตราค่าเช่าวันละ 1.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 58 บาท) หากค้างค่าเช่ารวม 8.86 ดอลลาร์(ราว 287 บาท) ผู้ให้เช่าล็อคเกอร์จะเปิดล็อคเกอร์และตรวจดูสิ่งของที่เก็บในล็อคเกอร์  ตำรวจ ระบุว่า จะสอบสวนผู้ต้องหาถึงสาเหตุการเสียชีวิตของทารกและดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย