ในวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทย คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง บริเวณแยกศรีเอี่ยม ถนนศรีนครินทร์ตัดบางนา-ตราด โดยมีผู้ร่วมในพิธี คือ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอกวิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และนายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง ส่วนการจัดงานในครั้งนี้มีขึ้นที่บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง หมวดทางหลวงศรีนครินทร์ ถนนศรีนครินทร์ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า การจราจรในกรุงเทพถือว่าหนักหนาสาหัส รัฐบาลต้องหาวิธีการให้จราจรลื่นไหล ต้องมีการแก้ไขในหลายส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน จึงขอสังคมว่าอย่ามองเพียงแค่ด้านเดียวว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์และการทุจริต แต่ต้องมองเรื่องการเชื่อมต่อทั้งทางบกและทางน้ำ เพื่อลดปัญหาการจราจร โดยจะต้องนำไปใส่ในแผนแม่บท 20 ปีต่อไป
ส่วนปัญหาการเวนคืนที่ดินที่มีความติดขัด รัฐบาลกำลังหาวิธีแก้ไข
นายกรัฐมนตรียังขอให้ประชาชนหาวิธีการเดินทางเพื่อลดความแออัดในเส้นทางเดิม เนื่องจากเส้นทางที่มีการก่อสร้างย่อมจะมีปัญหาการจราจร ทั้งขอให้ผู้ก่อสร้างแจ้งเตือนจุดอันตราย และลดพื้นที่การก่อสร้างลง รวมถึงขอให้สร้างให้ได้มาตรฐาน รวดเร็ว ส่วนเรื่องราคาค่าโดยสารในวันข้างหน้าก็ต้องเป็นธรรม ยอมรับว่างานทุกงานย่อมไม่สามารถถูกใจทุกคน แต่ 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลทำเพื่อประชาชน และคาดหวังว่ารัฐบาลต่อไปจะทำให้ดีขึ้น ไม่ได้ว่าใครไม่ดี แต่อยากให้ก้าวสู่ประชาธิปไตยอย่างมั่นคง และขอให้ข้าราชการทุกคนรักษาเกียรติ ไม่ใช่ใช้เกียรติอยู่เหนือใคร
สำหรับรถไฟฟ้า 2 สายนี้เป็นหนึ่งในโครงการนำร่องภายใต้นโยบาย PPP Fast Track และให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ร่วมกับภาครัฐ เพื่อลดภาระเรื่องงบประมาณและหนี้สาธารณะ โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ได้ลงนามสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู กับบริษัทนอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล หรือ NBM และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง กับบริษัท อีสเทิร์น บางกอก โมโนโรล หรือ EBM ในระยะเวลา 33 ปี 3 เดือนแล้วแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ คือระยะที่ 1 การออกแบบการก่อสร้างและโยธา พร้อมติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 3 ปี 3 เดือนและระยะที่ 2 เป็นงานบริหารเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาเวลา 30 ปี
รถไฟฟ้าสายสีชมพู เส้นทางแคราย-มีนบุรี มีระยะทางทั้งสิ้น 34.5 กิโลเมตร จำนวน 30 สถานี รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 28,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง มีสถานีซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถ 3,000 คันอยู่ที่มีนบุรี ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง มีระยะทาง 30.4 กิโลเมตร รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 28,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง มีสถานีซ่อมบำรุงอยู่ที่จุดตัดถนนศรีนครินทร์และบางนา-ตราด และอาคารจอดรถ 3,000 คันอยู่ที่สถานีศรีเอี่ยม คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 2564
ด้านนายอาคม เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำในเรื่องความปลอดภัยในการก่อสร้าง การเร่งคืนพื้นที่การจราจร และการเชื่อมต่อของระบบขนส่ง รวมไปถึงบัตรแมงมุม ขณะที่เรื่องอัตราค่าโดยสาร ยืนยันว่าคิดราคาตามจริงตามระยะทาง ส่วนการเวนคืนที่ดินในการก่อสร้างเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน ยืนยันอยู่ในกรอบงบประมาณที่กำหนดไว้อยู่แล้ว
...
ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี