*รมว.คมนาคมหวังคนกทม.ลดใช้รถส่วนตัว สร้างนวัตกรรมเชื่อมระบบขนส่ง ลดอุปสรรคการเดินทาง*

ปัญหาการการจราจรติดขัด และปัญหามลพิษส่วนใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ที่มาจากรถยนต์ส่วนบุคคล กรุงเทพมหานคร ร่วมกับภาคีจัดงาน "นวัตกรรม สร้างสรรค์ คาร์ฟรีเดย์" เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ให้ใช้รถสาธารณะและปั่นจักรยานกันมากขึ้น โดยพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.กระทรวงคมนาคม เป็นประธานในการเปิดงาน "นวัตกรรม สร้างสรรค์ คาร์ฟรีเดย์" พร้อมกล่าวว่าสำหรับปริมาณรถยนต์ส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์ภายในกรุงเทพมหานคร มีจำนวนกว่า8ล้านคัน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยในระยะ5ปีที่ผ่านมา มีปริมาณเพิ่มขึ้นถึง2ล้านคัน เนื่องจากคนกรุงเทพไม่มีทางเลือกในการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะมากนัก จึงทำให้มีสถิติการใช้รถส่วนบุคคล ถึงร้อยละ56 รัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น และต้องการเข้าไปดูแลปัญหาเรื่องการจราจร เรื่องมลภาวะ โดยจะเร่งส่งเสริมให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเดินทาง ให้เข้าถึงการบริการระบบรถสาธารณะได้ง่ายขึ้น และมีคุณภาพโดยมีแนวทางที่ จะเร่งพัฒนาระบบโดยสารสาธารณะขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ทำให้ประชาชนที่ใช้บริการเดินทางถึงจุดหมายได้โดยการต่อรถไม่เกิน3ต่อ

เร่งดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล โดยทำให้ประชาชนเข้าถึงสถานีรถไฟได้ง่ายขึ้น และส่งเสริมการเชื่อต่อการเดินทางในระบบเดินทางสาธารณะทางน้ำและทางบก ทั้งรถโดยสารและรถไฟฟ้า โดยมอบหมายให้กรมเจ้าท่าพัฒนาท่าเรือ เพื่อที่จะเชื่อมต่อกับระบบขนส่งทางบกได้ง่ายขึ้น ซึ่งทั้งหมดเพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และแก้ปัญหาการจราจรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีแผนงานที่จะทำให้ทุกคนสามารถใช้ถนนได้อย่างอเนกประสงค์ ในถนนทุกสาย จะพยายามเร่งรัดให้ถนนสามารถใช้ควบคู่กันได้ระหว่างรถยนต์กับจักรยาน แต่ก็ต้องเป็นเรื่องที่มีหลายหน่วนงานเข้ามาเกี่ยวข้อง และจะต้องมีการแบ่งงานที่ชัดเจน

เช่นเดียวกันกับเรื่องภาษี ทั้งภาษีรถยนต์เก่า และภาษีการนำเข้าจักรยานจากต่างประเทศ ที่ยังคงมีข้อถกเถียงในเรื่องรถยนต์เก่า จะยังไม่มีมาตรการกำหนด ไม่ให้เข้าเมือง ส่วนเรื่องภาษีจักรยานที่นำเข้า และมีการบวกภาษีในอัตราที่สูง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปดูแล หากเป็นจักรยานที่เหมาะสม และตรงกับความต้องการของประชาชน จะเข้าไปดูแลบริหารจัดการเรื่องภาษี นอกจากนี้รัฐบาลและกระทรวงคมนาคม จะขอความร่วมมือประสานเอกชนให้มีการจัดจุดจอดรถส่วนบุคคลในพื้นที่ชาญเมือง และให้มีจุดเชื่อมต่อ จากจุดจอดรถไปยังสถานีรถไฟฟ้า และระบบขนส่งมวลชน รวมทั้งจะมีการดำเนินการให้รถขนส่งมวลชนสาธารณะ เปลี่ยนมาใช้พลังงานระบบNGV เพราะ ปลอดภัยกว่า LPG

นอกจากนี้ภายในงาน "นวัตกรรม สร้างสรรค์ คาร์ฟรีเดย์" ยังมีการเปิดร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆที่เกี่ยวกับการปั่นจักยาน อาทิ จักรยานสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ หมวก เสื้อ บอร์ดสำหรับให้ผู้ที่สนใจ เสนอความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ เกี่ยวกับการใช้รถจักรยานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และการแสดงภาพถ่ายการปั่นจักรยานในเมืองต่างๆทั่วโลก/สานนท์