หลังกรมราขทัณฑ์ ได้เปิดเผย การประหารชีวิตนักโทษเด็ดขาดครั้งแรกในรอบ 9 ปี นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุสด ได้ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กและให้สัมภาษณ์ จส.100 ถึงโทษประหารยังคง..มีอยู่ สะท้อนถึง ประสิทธิภาพของกฎหมาย ได้ลงโทษผู้กระทำผิด ที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง สัญญาณในเชิงบวกที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีจุดยืนในการพิจารณายกเลิกโทษประหารชีวิต เช่น การลงนามให้สัตยาบันรับรองพิธีสารเลือกรับ ฉบับที่สอง ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง เรื่องมุ่งยกเลิกโทษประหารชีวิตภายใน พ.ศ. 2561 แผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2557-2561) มีความชัดเจนมากขึ้นว่า จะเปลี่ยนแปลงโทษประหารชีวิตให้เข้าสู่การพิจารณาเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยมีแผนการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ให้แก่เจ้าหน้าที่และประชาชนทราบ เพื่อผลต่อการยอมรับและเปลี่ยนแปลงโทษดังกล่าว รวมถึง กลุ่มที่เป็นนักวิชาการและองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร เช่น แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล แห่งประเทศไทย รวมถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ส่วนใหญ่จะเห็นสอดคล้องไปในทางเดียวกันว่า ควรยกเลิกโทษประหารชีวิตในกฎหมายไทย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ถึง 55 ฐานความผิดทั้งที่บัญญัติในประมวลกฎหมายอาญา และในกฎหมายพิเศษ
แต่ ด้านผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวกับการรักษาความเสงบเรียบร้อยทั้งภายในและภายนอก มีความเห็นส่วนใหญ่ที่จะยังคงโทษประหารชีวิตไว้กฎหมายเพื่อผลในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดที่มีความร้ายแรงหรือเป็นภัยอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศไทย เช่น ความผิดฐานก่อการร้าย การฆ่าคน หรือความผิดฐานกบฏ ความผิดฐานค้ายาเสพติด ประเภทที่ 1
ด้านผู้พิพากษานั้น เห็นว่าแม้ในคำพิพากษาจะตัดสินลงโทษประหารชีวิต แต่มักจะได้รับการบรรเทาโทษหรือมีเหตุลดโทษอย่างอื่นที่ทำให้จำเลยไม่ได้รับโทษประหารชีวิตจริงๆ ในคำพิพากษา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า แนวโน้มของผู้พิพากษาและพนักงานอัยการส่วนใหญ่ จะไม่กำหนดโทษประหารชีวิต กับความผิดที่มีกฎหมายบัญญัติให้มีโทษประหารชีวิต แต่มักจะเลี่ยงไปในการลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแทน เหตุผลในการสนับสนุนให้ยกเลิกโทษประหารชีวิต คือ การประหารชีวิตเป็นโทษที่ละเมิดสิทธิในชีวิตของคน ซึ่งได้รับการยอมรับในนานาประเทศว่า ชีวิตมนุษย์มีความสำคัญแม้ผู้นั้น จะกระทำความผิดร้ายแรงเพียงใด ก็ไม่อาจลงโทษให้ถึงแก่ความตายได้ ส่วนเหตุผลที่สำคัญอีกประการคือ ความผิดพลาดในกระบวนการยุติธรรม หากศาลพิพากษาลงโทษประหารชีวิตแล้ว ต่อมาภายหลังพบหลักฐานที่แน่ชัดว่าผู้ต้องโทษประหารชีวิต ไม่ได้กระทำความผิดเพราะจับผิดตัว ดังนี้ การแก้ไขให้กลับคืนสถานะเดิมทำไม่ได้แล้ว เพราะมีการประหารชีวิตไปแล้ว แต่ถ้าเป็นโทษจำคุกมีกำหนดเวลา หรือจำคุกตลอดชีวิต สามารถชดเชยเยียวยาได้