หลังมีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นสำนักข่าวชินบัญชร โพสต์ข้อความทำนองว่าจะมีการจับกุมพระมหาเถระสมาคมทุกรูปและควบคุมตัวเจ้าคณะจังหวัดไว้ที่ค่ายทหารทุกจังหวัด และประกาศใช้มาตรา 44 ให้พระสงฆ์สามเณรงดออกจากวัดตั้งแต่เวลา 09:00 น. ถึง 05:00 น. ของอีกวันในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ก่อนงานเข้าพรรษาจนกว่าจะมีการปฏิรูปสงฆ์แล้วเสร็จแล้วเสร็จ และให้ลี้ภัยไปใน 11 ประเทศที่มีสนธิสัญญา
พลตำรวจตรีไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปรามปฎิเสธข่าวดังกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ข้อความที่โพสต์ลงนั้นเป็นข้อความที่รุนแรง ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการจับกุมแต่อย่างใด และตำรวจเตรียมเอาสำนักข่าวดังกล่าวตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในฐานความผิดนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์กับกลุ่มคนหรือเพจเฟซบุ๊คที่สร้างข่าวลือในลักษณะนี้ โดยประสานให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.)ตรวจสอบต้นทางของข่าวที่มีลักษณะปลุกปั่นสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนและสังคม ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อหรือแชร์ข้อความดังกล่าว
ส่วนการดำเนินคดีเรื่องเงินทอนวัด หลังจากที่นายวรกร พงศ์ธนากุล ประธานเครือข่ายทนายและประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนา มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้อำนายการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)ความผิดตามมาตรา157ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องคดีทุจริตเงินทอนวัด พลตำรวจตรีไมตรีกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ แต่การมาแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ จะต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ดำเนินการ ทั้งนี้ได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่พศ.ที่กระทำผิดไปแล้ว15ราย