ประธานาธิบดีแอชราฟ กานี ผู้นำอัฟกานิสถาน ทวีตข้อความยืนยันว่า สหรัฐฯ ได้ใช้โดรนไร้คนขับปฏิบัติการสังหารนายเมาลานา ฟาซลุลเลาะฮ์ ผู้นำกลุ่มตอลิบัน ซึ่งเชื่อว่า เป็นผู้สั่งการลอบสังหาร น.ส.มาลาลา ยูซาฟไซ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิด้านการศึกษาของสตรีและเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ที่อายุน้อยที่สุดโลกเมื่อปี 2555 แต่ น.ส.มาลาลา รอดชีวิตมาได้เมื่อปี 2555 โดยกองกำลังสหรัฐฯ ได้พุ่งเป้าสังหารนายฟาซลุลเลาะฮ์ ระหว่างปฏิบัติการโจมตีต่อต้านการก่อการร้ายใน จ.คูนาร์ ทางภาคตะวันออก ติดกับปากีสถาน เมื่อวันพฤหัสบดี
การเสียชีวิตของนายฟาซลุลเลาะฮ์ เป็นผลมาจากข่าวกรองบุคคล ซึ่งนำโดยสำนักงานความมั่นคงของอัฟกานิสถาน และยังถือเป็นก้าวสำคัญต่อการเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างอัฟกานิสถานและปากีสถาน หลังจากต่างฝ่ายต่างกล่าวหากันว่า อีกประเทศเป็นแหล่งพักพิงและให้การสนับสนุนผู้นำกลุ่มตอลิบันมาเป็นเวลานาน
ทั้งนี้ กลุ่ม “เตห์รีก-อี-ตอลิบัน ปากีสถาน” หรือ “TTP” ของนายฟาซลุลเลาะห์ อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นองเลือดในปากีสถานหลายครั้ง อาทิ เหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งสำคัญที่โรงเรียนในเมืองเปชะวาร์เมื่อเดือนธันวาคม 2557 ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 150 คน นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อมโยงความพยายามลอบวางระเบิดรถยนต์บริเวณจัตุรัสไทมส์สแควร์ในนครนิวยอร์กเมื่อปี 2553
สำหรับนายฟาซลุลเลาะห์ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำกองกำลังอิสลามในเขต “สวัต” ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงอิสลามาบัด นครหลวงของปากีสถาน มาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในอัฟกานิสถานมาตั้งแต่ปี 2552
ทีมต่างประเทศ
CR:AFP