+++คดีของนายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 64 ปี ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด (มหาชน) ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ในคดีหมายเลขดำ อ.1144/2561 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้องคดีครอบครองอาวุธปืนไรเฟิลโดยไม่ได้รับอนุญาต ภายในบ้านพักเลขที่ 12/3 ซ.ศูนย์วิจัย 3 กทม. ทนายความ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 200,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลพิจารณาแล้ว ก็อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว นายเปรมชัย จำเลย ไปตีราคาประกัน 2 แสนบาท โดยไม่กำหนดเงื่อนไขใดๆ ขณะที่ศาลกำหนดให้ตรวจหลักฐานคดีดังกล่าวในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น. โดยเมื่อศาลมีคำสั่งให้ประกันแล้วนายเปรมชัย และทีมทนายความ ก็เดินทางกลับทันที
+++คดีครอบครองอาวุธปืนนี้ นับเป็นสำนวนที่ 2 ที่ นายเปรมชัย ถูกยื่นฟ้องต่อศาลอาญา โดยยังมีคดีครอบครองงาช้างแอฟริกา 2 คู่ ที่อัยการยื่นฟ้องนายเปรมชัย กับภรรยาและพวกอีก 1 รายเมื่อกลางเดือนเมษายน ศาลนัดสอบคำให้การคดีงาช้าง ในวันที่ 7 พ.ค.
+++นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึง กรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา ให้กระทรวงการต่างประเทศ คืนหนังสือเดินทาง 3 ฉบับ ของนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ว่า ไม่มีปัญหา เมื่อศาลมีคำสั่งให้คืนก็ต้องคืน กระทรวงต่างประเทศเคยพิจารณาว่าจะคืนหนังสือเดินทางให้นายจาตุรนต์อยู่แล้ว เพราะนายจาตุรนต์เคยเดินทางออกนอกประเทศมาแล้ว โดยช่องทางการขออนุญาตจาก คสช.
+++ส่วนการเพิกถอนหนังสือเดินทางของนายทักษิณ ชินวัตร นายดอน กล่าวว่า เมื่อศาลปกครองตัดสินออกมา ว่าเป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยกฎหมาย ถือว่ากระบวนการจบแล้ว
+++การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นอกสถานที่ 7-8 พ.ค. ที่จ.บุรีรัมย์ นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ จุดที่นายกฯ ลงพื้นที่ ได้แก่ บริเวณถนนเซราะกราว เขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์, สนามช้าง อารีน่า สนามฟุตบอลของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ และหมู่บ้านท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านสนวนนอก ต.สนวน อ.ห้วยราช เพื่อเตรียมความพร้อมและซักซ้อม โดยเฉพาะจุดบริเวณสนามช้าง อารีน่า นายกฯ พบและปราศรัยต่อมวลชนกว่า 3 หมื่นคน จะมีการใช้พื้นที่ภายในสนามฟุตบอลเป็นเวทีปราศรัย จังหวัดจะมีการซักซ้อมเสมือนจริงในทุกพื้นที่ ทุกจุดที่ครม.ลงพื้นที่
+++น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ทางสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าได้สรุปจำนวนรายการสินค้าทั้ง 422 รายการ ที่นำมาคำนวณอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนเมษายน 2561 พบว่า มีสินค้าที่ราคาปรับสูงขึ้น 239 รายการ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง ข้าวสารเจ้า ก๊าซหุงต้ม และผลไม้สดที่ปรับจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
+++ราคาสินค้าที่ยังทรงตัว 71 ราย และสินค้าที่ลดลง 112 รายการ เช่น เนื้อหมู ไก่สด ไข่ไก่ และข้าวเหนียว เป็นต้น โดยสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.68 และหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 1.31 จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นถึงร้อยละ 3.90 ทำให้อัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายนสูงขึ้นร้อยละ 1.07 สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และเป็นอัตราสูงที่สุดในรอบ 14 เดือน และในช่วง 4 เดือนแรก อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นร่อยละ 0.75
+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ(อีไอเอ) เผยแพร่รายงานเมื่อวันจันทร์ ระบุกำลังผลิตของประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 10.264 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกุมภาพันธ์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์
+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน จากแรงฉุดข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง แต่ความคาดหมายรายงานประกอบการที่แข็งแกร่งของแอปเปิ้ลช่วยดันแนสแดคขยับขึ้น ดาวโจนส์ ลดลง 64.10 จุด ปิดที่ 24,099.05 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 6.75 จุด ปิดที่ 2,654.80 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 64.44 จุด ปิดที่ 7,130.70 จุด
+++ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เริ่มต้นการประชุม 2 วัน เมื่อวันอังคาร และอาจนำเสนอแนวทางแผนปรับขึ้นดอกเบี้ยของทางธนาคารในปีนี้
+++ราคาทองคำ ปิดลบแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ก่อนหน้าการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 12.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,306.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++การดำเนินคดีตำรวจ 5 คน อุ้มยัดข้อหายาเสพติดเหยื่อ 4 คน รีดทรัพย์เงินสด-ทองคำมูลค่าหลายแสนบาท หลังจับได้พบเป็นตำรวจ นครบาล 2 นายจริง ยศ ร.ต.ท. และ ด.ต. แต่อ้างเป็นชุดปราบปรามยาเสพติด ส่วนอีก 3 คนเป็นพลเรือน ศาลจังหวัดธัญบุรี ออกหมายจับตามที่พนักงานสอบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ขออนุมัติผู้ต้องหา 5 คน ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ เนื่องจากผู้เสียหาย 4 คน แจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวน สภ.คูคตว่า ถูกชายฉกรรจ์ 5 คนอ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด บุกมาอุ้มจากในบ้านไปรีดทรัพย์สินมูลค่าหลายแสนบาท
+++พฤติกรรมกลุ่มคนร้าย 5 คนอ้างตัวเป็นตำรวจชุดสืบสวนกำลังติดตามสืบสวนเครือข่ายยาเสพติด ใช้รถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ สีแดง และรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ สีส้ม ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนทั้ง 2 คัน บุกไปหาผู้เสียหายถึงในบ้าน กล่าวหาว่าเกี่ยวพันยาเสพติด จากนั้นบังคับนำตัวผู้เสียหายออกจากหมู่บ้านพฤกษา 57 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ไปเจรจาที่ลานจอดรถสโมสรตำรวจ ใกล้กับกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ขู่บังคับให้ผู้เสียหายกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาคูคต คลอง 2 ยึดสร้อยคอและแหวนทองคำ รวมมูลค่าหลายแสนบาทไปด้วย
+++พนักงานสอบสวน สภ.คูคต รับแจ้งเหตุ ประสานชุดสืบสวนตรวจสอบข้อมูลจนได้พยานหลักฐานแน่ชัดว่า กลุ่มผู้ต้องหาที่อ้างตัวเป็นตำรวจทั้ง 5 คน เป็นตำรวจจริง 2 คน ประกอบด้วย ร.ต.ท.เฉลิมชัย สุติบุตร รอง สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2 และ ด.ต.สมบัติ สนั่นเอื้อ ผบ.หมู่งานสืบสวน สน.ประเวศ ส่วนอีก 3 คน คือนายธนดล รุ่งแสง นายพรศักดิ์ เสาวพงษ์ และนายประสิทธิ์ อ่องเอี่ยม หลังจากนั้นขออนุมัติศาลจังหวัดธัญบุรี ออกหมายจับตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 2561 และชุดสืบสวน สภ.คูคต สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบสวนดำเนินคดีได้แล้ว นอกจากนี้ยังเชื่อว่าแก๊งนี้ก่อเหตุมาหลายครั้งแล้ว เร่งขยายผลหาผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
+++พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้รับรายงาน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ว่า จับกุมผู้ต้องหา 5 คน มีนายตำรวจยศ ร.ต.ท. นายดาบตำรวจ 1 คน และพลเรือน 3 คน ร่วมกันก่อคดีปล้นทรัพย์ผู้เสียหายในท้องที่ สภ.คูคต ส่วนของข้าราชการตำรวจที่มาเกี่ยวข้องจะแยกการดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นคดีอาญา ส่วนที่ 2 เรื่องวินัยร้ายแรง คดีอาญาของข้าราชการตำรวจและพลเรือนว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ส่วนของวินัยจะดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ขณะนี้รอคำสั่งต้นสังกัดให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 2 นายออกจากราชการไว้ก่อน ทุกอย่างดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนและกฎหมาย
แฟ้มภาพ
เปิด 5 เหตุผล ทำไมคนไทยถึงถูกมิจฉาชีพหลอกบ่อย
ศุกร์นี้! กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลวิเคราะห์น้ำ-มลพิษในอากาศ เหตุไฟไหม้โรงงานฉลองกรุง 55
ผู้นำฝรั่งเศสเตรียมเสนออียูคว่ำบาตรรัสเซียครั้งที่ 17 ถ้าไม่ยอมตกลงหยุดยิงยูเครน
ข่าวทั้งหมด
