เกาหลีเหนือเตรียมปิดสถานที่ทดสอบนิวเคลียร์/ปธน.สหรัฐขู่ชัตดาวน์อีกรอบ/ฟิลิปปินส์ห้ามทำงานคูเวตถาวร

ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงผลการประชุมสุดยอดผู้นำสองประเทศบนคาบสมุทรเกาหลี ระหว่างนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กับประธานาธิบดี มูน แจอิน ของเกาหลีใต้ โดยเปิดเผยว่า นายคิมได้ให้คำมั่นว่าจะปิดสถานที่ที่ใช้สำหรับการทดลองนิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือลงในเดือนพฤษภาคมนี้ และจะเปิดให้ผู้เชี่ยวชาญและผู้สื่อข่าวจากเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เข้าไปตรวจสอบ ทั้งมีความหวังว่าจะได้พบกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ต่อไป เชื่อว่า หากมีการพูดคุยกันบ่อยขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่น และไม่มีสนธิสัญญาที่ก้าวร้าว ก็ไม่มีความจำเป็นที่เกาหลีเหนือจะต้องมีอาวุธนิวเคลียร์อีกต่อไป นอกจากนี้ นายคิมต้องการที่จะเปิดการเจรจากับญี่ปุ่นที่มีความตึงเครียดระหว่างกันมาอย่างยาวนาน

ส่วนความคืบหน้าการพิจารณาสถานที่พบหารือระหว่างประธานาธิบดี ทรัมป์กับนายคิมขณะนี้ตัวเลือกเหลือเพียง 2 ประเทศคือมองโกเลีย กับสิงคโปร์

ส่วนการเมืองสหรัฐฯ ประธานาธิบดี ทรัมป์ ขู่ว่าจะชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลกลางในเดือนกันยายนนี้ หากสภาคองเกรสไม่อนุมัติงบประมาณเพื่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างเม็กซิโกกับสหรัฐฯ โดย โครงการนี้เริ่มต้นขึ้นแล้วด้วยงบประมาณ 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะมีการลงมติจะมีอีกครั้งในวันที่ 28 กันยายนนี้  โดยวงเงินงบประมาณทั้งหมดของโครงการนี้คือ 1 ล้าน 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ประธานาธิบดี อัลเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ผู้นำอียิปต์ ประกาศว่าปฏิบัติการ "ไซนาย 2018" หรือปฏิบัติการปราบปรามก่อการร้ายในคาบสมุทรไซนาย จะยุติลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยปฏิบัติการนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า  200 ราย ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกองกำลังติดอาวุธ

บราซิลลดกำลังตำรวจหน่วยสันติภาพ ในนครรีโอเดจาเนโรลงครึ่งหนึ่ง โดยระบุว่าหน่วยสันติภาพเป็นโครงการ 10 ปีที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2551 เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในย่านชุมชนแออัด ในช่วงที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2557 และโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2559

ประธานาธิบดี โรดริโก ดูแตร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ออกคำสั่งถาวรห้ามพลเมืองฟิลิปปินส์ไปทำงานที่คูเวตซึ่งเดิมคำสั่งนี้เป็นคำสั่งห้ามชั่วคราว สืบเนื่องจากเหตุทารุณและทำร้ายร่างกายแรงงานชาวฟิลิปปินส์ที่นำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงถึงขั้นคูเวตเรียกทูตกลับและสั่งขับทูตฟิลิปปินส์ กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ เผยว่าในปัจจุบันมีชาวฟิลิปปินส์ทำงานอยู่ในคูเวตราว 262,000 คน ซึ่งเกือบร้อยละ 60 เป็นคนงานทำงานบ้าน

นักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมเปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำราว 3,000 แห่ง ที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคบอลข่านในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คือภัยคุกคามสำคัญต่อแหล่งน้ำธรรมชาติของยุโรป ซึ่งครอบคลุมถึงพื้นที่ซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุด โดยสหภาพยุโรป หรือ อียู ตั้งเป้าจะพึ่งพาพลังงานหมุนเวียนให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 27 ภายในปี 2573

และจากเหตุไฟไหม้ที่โรงงานจิ้งเผิงซึ่งเป็นโรงงานผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งอยู่ในเมืองเถาหยวน ไต้หวัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บ 7 คน เหตุเกิดคืนวันที่ 28 เมษายน ซึ่งผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 5 นาย และแรงงานต่างชาติ 2 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 7 คน ซึ่งผลการตรวจสอบยืนยันแล้วว่าผู้เสียชีวิตเป็นแรงงานชาวไทย ซึ่งติดอยู่ใต้เครื่องจักรกลหนักจึงไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเกิดจากกรดและสารเคมีในโรงงาน

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าทราบชื่อแรงงานไทยแล้วคือนายภานุพงษ์ เสงี่ยม อายุ 24 ปี ชาว จ.ฉะเชิงเทรา และนายเชิดศักดิ์ บุรัมย์สูงเนิน อายุ 42 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ จัดส่งโดยบริษัทจัดหางาน เอสพี ลีดเดอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (ไทย) และบริษัทจัดหางาน SUMMIT CO.,LTD. (ไต้หวัน) สำนักงานแรงงานไทยฯ ได้กำชับให้นายจ้างและบริษัทจัดหางานดูแลคนงานไทยแล้ว โดยในวันนี้จะมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจเยี่ยม และให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยตามสิทธิประโยชน์อย่างเหมาะสม ส่วนในประเทศไทย ทางสำนักงานจัดหางาน จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.บุรีรัมย์ จะไปพบกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตเพื่อประสานงานและให้การช่วยเหลือ

....