ผู้นำสหรัฐฯ อาจเดินทางไปเปิดสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ แห่งใหม่ประจำนครเยรูซาเล็ม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แถลงที่ทำเนียบขาวว่า อาจจะเดินทางไปอิสราเอลเดือนหน้า เพื่อเปิดสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ แห่งใหม่ประจำนครเยรูซาเล็ม หลังมีคำสั่งย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเทลอาวีฟ จนสร้างกระแสความไม่พอใจในโลกอาหรับ เฉพาะอย่างยิ่งปาเลสไตน์ ซึ่งวางแผนให้เยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวงของรัฐในอนาคต นอกจากนี้ ยังแถลงว่า ไม่รู้สึกเสียใจเกี่ยวกับการตัดสินใจย้ายสถานทูตแห่งใหม่ที่วางแผนมานาน 10 ปี ซ้ำยังจะภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก และอาจจะเดินทางไปเปิดสถานทูตแห่งใหม่ ซึ่งคงจะมีความสวยงามด้วยตัวเอง ปัจจุบัน สหรัฐฯ มีสถานเอกอัครราชทูตตั้งอยู่ในกรุงเทลอาวีฟ และสถานกงสุลในนครเยรูซาเล็ม ซึ่งดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในปาเลสไตน์ ที่ผ่านมามีประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลายคน ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้ง สัญญาจะย้ายสถานทูตสหรัฐฯ ไปเยรูซาเล็ม แต่ในทางปฏิบัติ ยังไม่มีผู้นำสหรัฐฯ คนใดดำเนินการสั่งย้าย

ขณะที่ นักวิจารณ์ เตือนว่า การย้ายสถานทูตจะส่งผลกระทบต่อความสามารถของสหรัฐฯ ในการทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยการเจรจาข้อตกลงสันติภาพขั้นสุดท้ายระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่สนใจ ทั้งยังระบุในระหว่างการแถลงข่าวด้วยว่า ผู้นำสหรัฐฯ สัญญาจะย้ายสถานทูตมาแล้วหลายคนและเป็นเวลานานแล้วหลายปี แต่ไม่มีผู้นำคนใดกล้าหาญพอที่จะทำให้คำมั่นสัญญาเป็นจริง สำหรับสถานทูตแห่งใหม่นี้เป็นการยกระดับสถานกงสุลสหรัฐฯ ที่มีอยู่เดิมแล้ว โดยเสียค่าใช้จ่ายในการตกแต่งเพิ่มเติมราว 300,000-400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ทีมต่างประเทศ

FilePhoto