สหรัฐฯ คงอันดับไทยอยู่ในกลุ่มประเทศWL ในรายงานทรัพย์สินทางปัญญา

สำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ หรือ USTR เผยแพร่รายงานทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศคู่ค้าตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ประจำปี 2561 โดยสหรัฐฯ จัดไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องจับตามอง หรือ Watch List (WL) เช่นเดียวกับเวียดนาม โดยระบุว่าควรจะได้รับการเกี่ยวพันในระดับทวิภาคีมากขึ้นในช่วงระหว่างปีนี้ถึงปี 2562 หลังจากที่ไทยอยู่ในบัญชีกลุ่มประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ หรือ Priority Watch List มาตั้งแต่ปี 2550 และเพิ่งหลุดจากกลุ่มดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว

ส่วนจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ และเพิ่งมีปัญหาพิพาททางการค้าและทรัพย์สินทางปัญญากับสหรัฐฯ รายงานได้ทบทวนสถานะยังคงจัดให้จีนอยู่ในกลุ่มประเทศที่ต้องจับตามองพิเศษ หรือ PWL ต่อไป ทำให้จีนถูกจัดสถานะอยู่ในกลุ่มนี้มาเป็นเวลา 14 ปี โดย USTR ระบุว่า จีนไม่มีความพยายามเพียงพอในการปกป้องหรือคุ้มครองสินค้าจดสิทธิบัตรและจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า

ขณะที่นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุว่า รายงานฉบับนี้ส่งสัญญาณชัดเจนไปยังประเทศหุ้นส่วนการค้าของสหรัฐฯ ว่า สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ความสำคัญลำดับแรกกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวมิได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรกับประเทศคู่ค้าที่ไม่สามารถปรับปรุงสถานะได้ในทันที ขณะที่รายงานฉบับนี้ได้รับการเผยแพร่หลังจากสหรัฐฯ ได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า คิดเป็นวงเงินรวม 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายที่จะกดดันจีนให้ผ่อนปรนกฎระเบียบด้านการค้าและการลงทุน

ทั้งนี้ สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราร้อยละ 25 จำนวน 1,300 รายการ ตั้งแต่สินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น การแพทย์ การบิน และเซมิคอนดักเตอร์ ไปจนถึงสินค้าจำพวกเครื่องจักรและเคมีภัณฑ์ นอกจากนี้ มาตรการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวยังครอบคลุมถึงสินค้าผู้บริโภค เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องกวาดหิมะ และมอเตอร์ไซค์

ทีมต่างประเทศ

CR:AFP, https://tribune.com.