FAA สั่งตรวจสอบครื่องยนต์รุ่นเดียวกับเครื่องบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ส หลังพบรอยแตกบนใบพัด

สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ FAA มีคำสั่งฉุกเฉินให้ตรวจสอบเครื่องบินที่ใช้เครื่องยนต์รุ่น CFM56-7B ทั้งหมด ซึ่งผลิตโดยบริษัท CFM อินเตอร์เนชันแนล และเป็นรุ่นเดียวกับเครื่องบินโดยสารของสายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ส หลังพบรอยแตกบนใบพัด จนทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต 1 คน คำสั่งดังกล่าวระบุว่า ปัญหารอยแตกบนใบพัดเครื่องบินอาจส่งผลให้เครื่องยนต์ดับกลางอากาศ หากไม่ได้รับการแก้ไข และอาจทำให้มีเศษชิ้นส่วนแตกกระจายจนไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ ลำตัวเครื่องบิน และการสูญเสียความดันภายในห้องโดยสาร

ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าว ครอบคลุมเครื่องบินที่ใช้เครื่องยนต์รุ่นดังกล่าวที่มีวงรอบการบินตั้งแต่ 30,000 รอบขึ้นไป จะต้องถูกตรวจสอบสภาพภายใน 20 วัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ราว 352 เครื่องในสหรัฐฯ และ 681 เครื่องทั่วโลก โดยการตรวจสอบจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้มีเครื่องยนต์ที่ผ่านการตรวจสอบสภาพแล้วประมาณ 150 เครื่อง

นอกจากนี้ ทันทีที่มีการตรวจสอบแล้วเสร็จ บริษัท CFM ได้แนะนำให้มีการตรวจซ้ำทุก 3,000 วงรอบการบิน หรือประมาณทุก 2 ปี แต่ FAA ยังไม่ได้บังคับใช้มาตรการดังกล่าว นอกจากนี้ ยังแนะนำให้สายการบินต่างๆ นำเครื่องยนต์ที่มีใบพัดผ่านการใช้งานมากกว่า 20,000 วงรอบการบินเข้ารับการตรวจสอบสภาพภายในเดือนสิงหาคม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์อีก 2,500 เครื่อง

คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังเครื่องบินโดยสารของสายการบินเซาท์เวสต์แอร์ไลน์สเกิดปัญหาเครื่องยนต์ระเบิดกลางอากาศ ขณะทำการบินจากนิวยอร์กไปยังเมืองดัลลัสเมื่อวันที่ 17 เม.ย. โดยเศษเหล็กได้กระเด็นมาถูกกระจกหน้าต่างแตกจนส่งผลให้ห้องโดยสารสูญเสียความดัน และผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งถูกกระแสลมดูดจนเกือบหลุดออกนอกลำตัวเครื่องบิน โชคดี เพื่อนผู้โดยสารสามารถคว้าตัวได้ทัน แต่ผู้โดยสารหญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตด้วยอาการบาดเจ็บในเวลาต่อมา

ทีมต่างประเทศ

CR:AFP,http://www.france24.com.