ข่าวเด่น:สรุปคดีกองทุนเสมาฯสิ้นเดือนนี้/คว่ำยกชุดกสทช./หมวดจรูญฟ้องครูปรีชาเบิกความเท็จ

สรุปข่าว 19.35 น.

+++นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต รายงานต่อที่ประชุม ก.ศึกษาธิการ สรุปข้อมูลล่าสุดเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ได้จ่ายให้กับโรงเรียนในสังกัด สพฐ.ทั้งหมด 41 แห่ง วิทยาลัยพยาบาล 26 แห่ง กศน.จังหวัด 3 แห่ง มีการโอนเงินเข้าบัญชีอื่นซึ่งเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้อง 39 คน และโอนเข้าบัญชีที่ไม่ทราบว่าเป็นบุคคลใด 68 บัญชี รวมใช้เงินกองทุนโอนไปตั้งแต่ปี 2548 จำนวน 230 ล้านบาท ขณะนี้ทราบแล้วว่ามีจุดรั่วตรงไหนและจะเร่งรัดข้อมูลทั้งหมดให้เสร็จภายในสิ้นเดือน เม.ย 

+++ส่วนความเสียหายล่าสุดตอนนี้มีวิทยาลัยพยาบาล  ยังไม่ได้ยืนยันข้อมูล 12 แห่ง อีก 14 แห่งรายงานหลังจากนี้ทางปลัดกระทรวงศึกษาฯ จะเสนอคณะกรรมการให้เรียกเงินคืน จะต้องจ่ายเงินเพิ่มจำนวน 30 ล้านบาท ทางสพฐ.รอข้อมูลยืนยันจากศึกษาจังหวัดอีก 18 โรง ยืนยันข้อมูลมาแล้ว 26 แห่งจะต้องจ่ายเงินเพิ่มจำนวน 11 ล้านบาทและใน รร.ของ สพฐ.ก็มีการรับเงินเกินจำนวน 2 ล้านบาท ซึ่งก็จะดำเนินการเรียกเงินคืนเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ กองทุนมีภาระที่จะต้องหาเงินเพิ่มจำนวนประมาณกว่า 42 ล้านบาท

 +++ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)  มีมติ 118:25 งดออกเสียง 20 เสียงคว่ำการเลือกกรรมการ กสทช. ยกชุด ส่งผลให้ต้องเริ่มกระบวนสรรหาใหม่ นายสืบศักดิ์ สืบภักดีนักวิจัยด้านโทรคมนาคม สำนักวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ อดีตผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) กล่าวว่า การชะลอกระบวนการสรรหาออกไปจะทำให้เรื่องที่อยู่ระหว่างการรอการดำเนินงานต้องล่าช้าออกไป

+++นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ รอการดำเนินการอื่น อาทิ มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการทั้งทีวีดิจิทัลและโทรคมนาคมหรือกรณีพิพาทและความชัดเจนในกิจการดาวเทียมกรณีการเยียวยาคลื่น1800 เมกกะเฮิรตซ์จากการประมูลครั้งที่ผ่านมาการจัดสรรความถี่ สำหรับกิจการโทรคมนาคมหรือแม้แต่เรื่องสำคัญอย่างกรณีการคุ้มครองผู้บริโภคทั้งในแง่ข้อมูลและSMS กินเงินล้วนเป็นเรื่องเร่งด่วน ที่ต้องรอกรรมการกสทช. ลงมติดำเนินการทั้งสิ้น

+++ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เห็นชอบให้ พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.

+++นายธีรพัฒน์ สุขกรี ลูกค้าของค่ายมือถือ บ.ทรูฯ พร้อมเจ้าหน้าที่บริษัทซีพีออลล์ เข้าแจ้งความ สน.ห้วยขวาง หลังจากเมื่อวันที่ 13 เม.ย.พบว่า ถูกนำข้อมูลบัตรประชาชนไปซื้อโทรศัพท์มือถือและเปิดเบอร์โทรศัพท์ เชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นผลจากข้อมูลของลูกค้าจากค่ายมือถือดังกล่าวหลุดรั่วไป

+++ร.ต.ท.จรูญ วิมูล พร้อมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ เดินทางมายังศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นคำร้องฟ้องนายปรีชา ใคร่ครวญ นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น และนางพัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช ในความผิดฐานเบิกความอันเป็นเท็จในการไต่สวนคำร้องฉุกเฉิน กรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 จำนวน 30 ล้านบาท ที่มีการอ้างสิทธิ์ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ กับนายปรีชา ซึ่งขณะนี้ถือว่าดำเนินการมาอยู่ในกระบวนการชั้นศาลแล้ว นายษิทรา กล่าวว่า การยื่นฟ้องครั้งนี้เพราะมีหลักฐานชัดเจนในความผิดเรื่องเบิกความอันเป็นเท็จของทั้งสามคน ส่วนสัปดาห์หน้าอาจมีการฟ้องร้องเพิ่มเติม แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นบุคคลใด  พร้อมกันนี้ขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบความผิดตามสำนวนที่ได้รับจากสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้คดีมีความคืบหน้าและได้ส่งผลไปถึงคดีอื่น ๆ ที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาต่อไปด้วย

+++กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แถลงผลจับกุมผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว 2 ราย  โดยคดีแรก จับกุม น.ส.อภิณห์พร พงษ์ปรีชาวงศ์ ตามหมายจับในคดีฉ้อโกงประชาชน กรณีหลอกลวงขายทัวร์ประเทศตุรกีให้กลุ่มผู้เสียหายกับพวกรวม 35 คน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ แต่ไม่พาไปท่องเที่ยวจริง เสียหาย รวมเป็นเงิน 1,085,000 บาท รวมถึงจับกุมนายสนธยา โพธิ์ศรี กรรมการผู้จัดการบริษัทนำเที่ยว ซึ่งนำคนไทย 33 คนไปท่องเที่ยวเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น แต่ปล่อยทิ้งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พร้อมยึดสัมภาระ หนังสือเดินทาง โดยตำรวจ จะนำผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

+++ ทีมโฆษกดีเอสไอ ส่งเอกสารชี้แจงกรณีโซเซียลมีเดียระบุว่ามีข้อสั่งการจากฝ่ายการเมืองให้ยุติการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์หรูเลี่ยงภาษี   รวมทั้งให้กรมศุลกากรใช้ คำสั่งกรมศุลกากร ที่ 317/2547 อนุโลมให้กับผู้ประกอบการรถยนต์นั่งสาเร็จรูปทุกบริษัทถือว่าสมบูรณ์และเป็นที่ยุติ  ขอยืนยันว่าในการสอบสวนดำเนินคดีพิเศษเป็นไป ด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมายทุกประการ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหลบเลี่ยงภาษีนำเข้ารถยนต์ โดยสำแดงราคาอันเป็นเท็จ รวม 15 ราย กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ประกอบการที่สำแดงราคาเท็จมารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้วรวมถึงกลุ่มบริษัทนิชคาร์ กรุ๊ป และกลุ่มบริษัทเอสทีทีออโต้คาร์ ของนายภาณุศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือบอยยูนิตี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานในสำนวนคดีเพื่อสรุปความเห็นสั่งฟ้อง และส่งสำนวนคดีไปให้อัยการ นอกจากนี้ ยังเร่งตรวจสอบหลักฐานราคารถที่แท้จริงจากประเทศต้นทางเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายให้ครบทุกราย

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,794.94 จุด  เพิ่มขึ้น 23.38 จุด มูลค่าการซื้อขาย 84,419.52 ล้านบาท  

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ไม่ได้มีข้อเรียกร้องด้านการค้าที่แข็งข้อจากญี่ปุ่น หลังจากที่ทรัมป์ได้ประชุมร่วมกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่รัฐฟลอริดา เพิ่มขึ้น 32.98 จุด ปิดที่ 22,191.18 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยการนำของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขานรับราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีครึ่งเมื่อคืนนี้ พุ่งขึ้น 424.19 จุด ปิดวันนี้ที่ 30,708.44 จุด