ผู้ว่าฯกฟผ.รับต้องหารือทุกฝ่ายถึงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย

การจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย(พีดีพี)  นาย กรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ระบุว่า กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารืออยู่ ตัวเองไม่ได้เข้าประชุมด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่ากฟผ.เป็นเพียงผู้ปฏิบัติ ไม่ใช่ผู้วางนโยบาย ดังนั้นจะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างไร ต้องหารือกับฝ่ายต่างๆด้วย แต่การปรับแผนจะต้องเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้อง ทั้งนี้ยังไม่มองถึงเรื่องการแบ่งส่วนการผลิตไฟฟ้าหลังเข้าแผนพีดีพีว่า กฟผ.จะต้องได้ในอัตราร้อยละเท่าใด แต่ขอมองถึงการสร้างความมั่นคงของโรงไฟฟ้าก่อนจะดีกว่า ยอมรับว่าภาคใต้ยังมีปัญหาเรื่องไฟฟ้าไม่พอใช้งานจริง แต่ภาคอื่นยืนยันว่ามีกำลังไฟฟ้าใช้งานพอ โดยกฟผ.กำลังปรับตัดสายส่งไฟฟ้าสู่ภาคใต้ออกอีก 1 เส้น แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นเส้นที่เชื่อมไปยังจังหวัดใดบ้าง ซึ่งจะเปิดเผยรายละเอียดในวันศุกร์นี้

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มอบนโยบายในการจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (พีดีพี) ฉบับใหม่ ที่มุ่งตอบโจทย์ของความมั่นคงของระบบไฟฟ้า และการเปิดตลาดการแข่งขันธุรกิจไฟฟ้าแบบเสรี ซึ่งทั้งหมดจะต้องส่งผลให้ค่าไฟฟ้าตลอดแผนระยะยาว 20 ปี ควรถูกลงจากแผนเดิมที่สิ้นสุดปี 2579 ค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ 5.55 บาทต่อหน่วย โดยให้นำเสนอผลศึกษาเบื้องต้นในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) 20 เมษายนนี้

ด้านสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้รายงานแผนพีดีพีที่จัดทำเบื้องต้นที่เน้นการผลิตไฟฟ้าแบบรายภาคใน 8 ภูมิภาค แต่แผนที่จัดทำยังไม่ตอบโจทย์จึงให้ไปจัดทำมาใหม่เน้น 8 ภูมิภาคเช่นเดิม พร้อมให้โจทย์ที่ต้องดูแนวทางการส่งเสริมตลาดเสรีการแข่งขันโดยไม่จำกัดประเภทเชื้อเพลิงแต่ราคาขายไฟจะต้องไม่เกินราคาขายส่งหรือประมาณ 2.44 บาทต่อหน่วย ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงแข่งได้ด้วย ขณะเดียวกัน กฟผ.ต้องดูสัดส่วนการผลิตไฟทั้งหมดที่ตอบโจทย์ความมั่นคงทั้งสัดส่วน กฟผ.เอกชน และนำเข้า