หลังมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้เปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวก พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลงานฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ ยืนยันว่าไม่ขัดข้อง เพราะการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ขณะนี้ได้เร่งรัดติดตามคดีได้เร็วที่สุดแล้ว โดยยังต้องรอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ว่าเนื้อสัตว์ที่พบเป็นเนื้อของสัตว์ชนิดใด เนื่องจากผ่านไปกว่า 3 สัปดาห์ ก็ยังไม่ได้รับสรุปรายงาน สำหรับกลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ แต่ยืนยัน พนักงานสอบสวนดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอน
ส่วนการดำเนินคดีติดสินบนเจ้าพนักงานกับนายเปรมชัยนั้น นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ผู้กล่าวหา ยังไม่เดินทางเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำภายในอุทยานฯ ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 8 มีนาคมนี้ เพื่อเร่งดำเนินการเอาผิดกับผู้ต้องหา ส่วนเรื่องที่มีการกล่าวอ้างว่ามีการสอบซ้ำซากนั้น เป็นความเข้าใจผิด เพราะพนักงานสอบสวนสอบปากคำประจักษ์พยานไปเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น แต่ยังมีประเด็นข้อกฎหมายที่ต้องสอบเพิ่มในรายละเอียดให้ชัดเจน
พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยังกล่าวอีกว่ากรณีที่มีนายเปรมชัยและพวก ให้การว่าซื้อเนื้อสัตว์จากที่อื่นเข้าไปประกอบอาหารภายในพื้นที่อุทยานนั้น ฟังไม่ขึ้น เพราะหมู่บ้านที่อยู่ใกล้สุดห่างไป 50 กิโลเมตร ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ปิด ไม่อนุญาตให้มีการจำหน่ายสินค้า
ส่วนงาช้างที่ตรวจพบภายในบ้านของนายเปรมชัย ที่มีชื่อของภรรยานายเปรมชัยเป็นผู้จดแจ้ง จึงไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้อื่นได้ และการรับจดแจ้งขึ้นทะเบียนงาช้างถูกต้องหรือไม่ เป็นหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และยืนยันว่าตำรวจและกรมอุทยานฯ ไม่ได้มีปัญหาในการประสานงาน ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 90 ดำเนินคดีกับนายเปรมชัยและพวกรวมทั้งสิ้น 9 ข้อหา และกำลังดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาวุธปืน และติดสินบนเจ้าหน้าที่ คาดสามารถสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องได้ภายใน 24 มีนาคมนี้
ด้าน พลตำรวจตรีธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงผลการตรวจพิสูจน์อาวุธปืน 3 กระบอกที่ยึดได้ในที่เกิดเหตุ ยืนยันว่าอาวุธปืนทั้งหมดเป็นของนายเปรมชัยจริง ส่วนลูกระสุนปืนที่ทำให้เสือดำเสียชีวิต เป็นลูกกระสุนลูกปลายที่สามารถบรรจุในปืนลูกซองขนาดเบอร์ 20 ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับ 1 ใน 3 กระบอกที่ตรวจยึดได้ การตรวจสอบยังพบว่าเป็นการยิงนัดเดียว ระยะใกล้ประมาณ 10 เมตร แต่กระสุนลูกปลายกระจายเป็น 8 รู และเจอหัวกระสุนลูกปลายที่เสือดำ 3 เม็ด ส่วนการจำลองวิถีกระสุนที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานเข้าไปจำลองในที่เกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 ร่วมด้วยนั้น ยืนยันว่าไม่สามารถระบุวิถีกระสุนได้ ใช้