พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ที่จงหวัดเพชรบุรี จากนั้นเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่
โดยเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่สมุทรสาคร และรับทราบความคืบหน้าการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (ไอยูยู) และกล่าวว่า ต้องการแสดงความจริงใจให้สหภาพยุโรป (อียู) เห็นว่ารัฐบาลมีการทำงานเพื่อแก้ปัญหาไอยูยูจริงจัง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการและแรงงานด้วย ขอให้แรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง
ทั้งนี้ พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้อียูจะยังคงสถานะใบเหลืองของไทยและยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าอียูจะปลดใบเหลืองของไทยเมื่อไร แต่ในระหว่างวันที่ 4-11 เมษายนนี้อียูจะเข้ามาติดตามการทำงานของไทยอีกครั้ง
ส่วนในการที่นายกรัฐมนตรีพบหารือกับคณะผู้นำท้องถิ่นของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (เพชรสมุทรคีรี : เพชรบุรี-สมุทรสงคราม-สมุทรสาคร-ประจวบคีรีขันธ์) และขอให้ทุกคนมองประเทศชาติไปข้างหน้า ซึ่งที่ผ่านมาผู้นำท้องถิ่นทุกคนมีบทบาทสำคัญ ขณะนี้กำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้ง ถ้ามีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นก็จะเลือกตั้งลำบาก จึงไม่อยากให้เกิดปัญหาความวุ่นวายขึ้นอีก และไม่อยากให้มีการต่อต้านการเลือกตั้ง ขอให้ผู้นำท้องถิ่นช่วยกันทำให้ประเทศปลอดภัย มีความมั่นคงยั่งยืน
ส่วนที่รัฐสภาในวันนี้ พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. ....
เมื่อวานนี้ พลอากาศเอกประจิน ต้อนรับนายยูริ เฟโดทอฟ รองเลขาธิการสหประชาชาติ และผู้อำนวยการบริหาร ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ซึ่งทางรองเลขาธิการสหประชาชาติแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ได้พบกันเมื่อหลายปีก่อน และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น ในมาตรการป้องกันยาเสพติด การค้ามนุษย์ ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น และกระบวนการยุติธรรม รวมถึง การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของประชาชนโดยใช้ศาสตร์พระราชาและพัฒนาทางเลือก ทั้งชื่นชมที่มีการจัดลำดับดัชนีภาพลักษณ์ทุจริตประจำปี 2560 สูงขึ้นกว่าปี 2559
โดยในสัปดาห์หน้า ไทยจะเข้าร่วมการประชุมในประเด็นปัญหายาเสพติด ร่วมกับรองเลขาธิการยูเอ็น และ UNODC ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยไทยยืนยันที่จะให้การสนับสนุนในทุกด้าน
ด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นัดประชุมสนช.ในวันที่ 8 มีนาคมนี้ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.และ ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญร่วม 3 ฝ่าย สนช. คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาเสร็จแล้ว หากที่ประชุมสนช.มีมติให้ความเห็นชอบจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป แต่หากมีการส่งร่างกฏหมายให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ จะส่งผลให้นายกรัฐมนตรีต้องชะลอการนำขึ้นทูลเกล้าฯ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย หรือหาก สนช.มีมติเสียงข้างมากไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 หรือ 165 เสียงจากทั้งหมด 248 คนไม่เห็นชอบ ร่างพ.ร.ป.ต้องเป็นอันตกไป และต้องดำเนินการจัดทำร่างกฏหมายใหม่อีกครั้ง
นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้สำนักงบประมาณร่วมกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานต่างๆ เร่งสำรวจสถานการณ์ช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยหรือปรับปรุงซ่อมแซมสถานที่ราชการอันเนื่องมาจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปี 2560 หากหน่วยงานใดยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการโครงการก็ขอให้ปรับแผนงาน แผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่าย และเสนอสำนักงบประมาณเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เสร็จโดยด่วน และให้สำนักงบประมาณรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการดำเนินงานเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายในเดือนเมษายน ต่อไป ทั้งนี้สำนักงบประมาณสรุปงบประมาณเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559-30 ธันวาคม 2560 มีจำนวน1,696 ล้านบาท
....