จีนกำหนดเป้าหมายจีดีพีเท่าเดิม/ผู้แทนเกาหลีใต้พบคิมจองอึน/WTO เตือนสหรัฐขึ้นภาษี

06 มีนาคม 2561, 06:13น.


ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ หรือ เอ็นพีซี ครั้งที่ 13 ที่กรุงปักกิ่ง นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง กล่าวในรายงานประจำปี ตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 6.5 เท่ากับในปีก่อน แม้ว่าในปีก่อนเศรษฐกิจจะขยายตัวในระดับที่มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้คือร้อยละ 6.9 นอกจากนี้ยังปรับลดเป้าหมายขาดดุลงบประมาณเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ในปี 2555 คือจากร้อยละ 3 เมื่อปี 2560 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.6 ในปีนี้  รวมถึงคัดค้านลัทธิปกป้องการค้าและสนับสนุนให้มีการระงับข้อพิพาทการค้าผ่านการเจรจา ปกป้องสิทธิ์และผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด กับจะรักษาเสถียรภาพค่าเงินหยวน ดำเนินนโยบายเงินด้วยความรอบคอบและเป็นกลาง รักษาสภาพคล่องให้มีความสม่ำเสมออย่างสมเหตุสมผล คาดว่าปริมาณการนำเข้าและส่งออกในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ แต่เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่นายกรัฐมนตรี ไม่เปิดเผยเป้าหมายการส่งออก ซึ่งเขาคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวต่อไปแต่ก็มีปัจจัยหลายด้านทั้งการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ลัทธิปกป้องการค้า และความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์การเมืองที่จะทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพและไม่แน่นอน



ส่วนงบประมาณด้านการกลาโหมปี 2561 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 1 ล้าน 1 แสน 1 หมื่นล้านหยวน เพื่อยกระดับการเตรียมพร้อมและการพัฒนากองทัพในทุกด้านให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านความมั่นคง ทั้งความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างรัฐบาลและกองทัพ กับกองทัพและประชาชน จะต้องเป็นไปอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง



นายชอง อวี-ยอง ผู้อำนวยการ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ นำทีมคณะผู้แทน 10 คน เดินทางไปยังกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือ เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือ และพบกับนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งประธานาธิบดีมูน แจ-อิน ผู้นำเกาหลีใต้ คาดหวังว่าการหารือครั้งนี้ จะนำไปสู่การเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐต่อไป



พรรคสังคมประชาธิปไตย หรือเอสดีพีของเยอรมนี มีมติเห็นชอบประกาศสนับสนุนพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน หรือ ซีดียู ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เกิ้ล ในการตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่ หลังจากที่นางแมร์เกิ้ลชนะการเลือกตั้งมาตั้งแต่ 24 กันยายนปีที่แล้ว แต่ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ โดยจะเข้าพิธีสาบานตนเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 4 ในช่วงกลางเดือนนี้



ส่วนการเมืองอิตาลี กลุ่มพรรคการเมืองที่มีนโยบายขวาจัดได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่สามารถครองเสียงข้างมากได้สำเร็จ ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาของอิตาลี โดยผลการเลือกตั้งพบว่าพรรคสันนิบาตที่มีแนวคิดขวาจัดมีคะแนนเสียงนำพรรคฟอร์ซา อิตาเลีย ของนายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า นายมัตเตโอ ซัลวินี หัวหน้าพรรคจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยนโยบายสำคัญของเขาก็คือ การปิดค่ายผู้อพยพลี้ภัยในกรุงโรม และเนรเทศผู้ลี้ภัย ทำให้ผู้นำหลายประเทศในกลุ่มยุโรป มีความกังวล โดยรัฐสภาชุดใหม่ของอิตาลี มีกำหนดประชุมนัดแรกในวันที่ 23 มีนาคม และคาดว่าการเจรจาตั้งรัฐบาลจะมีขึ้นในเดือนเมษายน แต่อาจต้องรออีกนานหลายเดือนถึงจะมีรัฐบาลชุดใหม่



การเมืองกัมพูชา นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ปฏิเสธข้อเสนอเจรจาของนายสม รังสี อดีตผู้นำพรรคการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาเพื่อยุติวิกฤตทางการเมือง ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสั่งยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือ ซีเอ็นอาร์พี เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ขณะที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไม่ต้องการเจรจากับนายสม รังสี ที่ต้องคดีอาญา



ปัจจุบันนายสม รังสี ลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์เขาทวีตข้อความขอเปิดการเจรจากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเพื่อยุติวิกฤติการเมือง ที่นำไปสู่การยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา



จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.5 แม็กนิจูด ที่ปาปัวนิวกินีตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 67 ราย ได้รับความเดือดร้อนมากถึง 43,000 คน โดยมีอยู่ 17,000 คน ที่กลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ ยังเกิด อาฟเตอร์ช็อกขึ้นอีกหลายครั้ง ทั้งส่งผลกระทบต่อโครงการขุดเจาะน้ำมันของเอ็กซอนโมบิลที่อาจต้องหยุดการทำงานนานถึง 8 สัปดาห์



นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐจะลงนามคำสั่งขึ้นภาษีเหล็กร้อยละ 25 และอะลูมิเนียมร้อยละ 10 ในสัปดาห์นี้ ทั้งเห็นว่าการที่ประเทศคู่ค้าเตรียมออกมาตรการตอบโต้เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ด้านนายปีเตอร์ นาวาร์โร ประธานสภาการค้าแห่งชาติสหรัฐ ที่เปิดเผยว่า คำสั่งนี้จะปฏิบัติต่อทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน



นายโรเบอร์โต อาเซเวโด ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก หรือดับเบิ้ลยูทีโอ เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกหลีกเลี่ยงการสร้างอุปสรรคต่อการค้าโลก ซึ่งการที่บางประเทศประกาศมาตรการ ทำให้เห็นความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นจึงขอให้ทุกฝ่ายพิจารณา และตัดสินใจอย่างระมัดระวัง เพราะเมื่อเริ่มต้นบนเส้นทางนี้แล้ว ก็จะเป็นการยากที่จะหันหลังกลับ



ตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดเมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 24,874.76 จุด เพิ่มขึ้น 336.70 จุด หรือร้อยละ 1.37



เอสแอนด์พี ปิดที่ 2,720.94 จุด เพิ่มขึ้น 29.69 จุด หรือร้อยละ 1.10 



แนสแดคปิดที่ 7,330.70 จุด เพิ่มขึ้น 72.84 จุด หรือร้อยละ 1



สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด ส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 2.2 ปิดที่ 62.57 ดอลลาร์/บาร์เรล



สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 1.8 ปิดที่ 65.54 ดอลลาร์/บาร์เรล



....

ข่าวทั้งหมด

X