นายกฯ เยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนธนาคารปูม้า จ.เพชรบุรี ส่งเสริมชาวประมง ให้มีอาชีพเสริม

05 มีนาคม 2561, 17:52น.


การลงพื้นที่จ.เพชรบุรี พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนธนาคารปูม้า –แพปลาชุมชนแหลมผักเบี้ย ต. แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี พร้อมเป็นสักขีพยานให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการมอบหนังสืออนุญาตให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ฯ หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินในชุมชนภาคกลาง (พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ายางหัก-เขาปุ้ม จังหวัดเพชรบุรี)  ให้แก่ผู้ว่าราชจังหวัด  โดยมี นางฉัตรพร  ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี  นางโฉมยง  โต๊ะทอง รองประธานบริษัท  ประชารัฐสามัคคีเพชรบุรี  จำกัด  นางอัจฉรีย์  เสริมทรัพย์  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต. แหลมผักเบี้ย  หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และประชาชนในพื้นที่ มารอให้การต้อนรับ

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต. แหลมผักเบี้ย ได้นำนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมฐานเรียนรู้และธนาคารปูม้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการประชารัฐ  ที่เป็นความสำเร็จในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยึดแนวตามทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9  ที่ได้ประยุกต์องค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นและการวิจัยที่ทำให้สามารถแก้ปัญหาปริมาณปูม้าลดลงในท้องทะเล  โดยการนำปูม้าไข่ที่จับได้มาฟักในระยะสั้นแล้วปล่อยลูกปูม้า ลงสู่ทะเล  เป็นการเพิ่มปริมาณปูม้า และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางชายฝั่งทะเล  ซึ่งเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านของกลุ่มชาวประมงที่ใช้วิธีการง่าย ๆ ด้วย วิธีธรรมชาติ ต่อมาคณะวิจัยพัฒนาการฟักตัวไข่ปูม้าเพื่อให้มีอัตราการรอดของปูเพิ่มขึ้นก่อนปล่อยลงสู่ทะเล  โดยจังหวัดที่ดำเนินการ ได้แก่ จังหวัดสงขลา  ตรัง สุราษฎร์ธานี  ประจวบคีรีขันธ์  เพชรบุรี  ระยอง จันทบุรี และตราด  ซึ่งแต่ละชุมชน สามารถเพิ่มปริมาณปูม้าให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการ และชาวบ้านนำไปขายโดยผ่านวิสาหกิจชุมชน และผ่านตลาดประชารัฐสามัคคีจังหวัดเพชรบุรี จำกัด  จึงทำให้ชาวบ้านมีอาชีพและรายได้เพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญสามารถฟื้นฟูและเพิ่มพูนทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเล  ตลอดจนสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ให้มีความรัก หวงแหน และเพิ่มพูนทรัพยากรสัตว์น้ำคืนสู่ทะเลอีกด้วย

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานสักขีพยานในการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ฯ  เนื้อที่  23,132 ไร่  จำนวน 3 อำเภอ ได้แก่  อำเภอบ้านลาด  ท่ายาง  แก่งกระจาน แก่ผู้ว่าราชจังหวัด   พร้อมแสดงความยินดีที่ได้มาพบกับประชาชนชาวจังหวัดเพชรบุรีในวันนี้  เพื่อจะได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการของประชาชนในพื้นที่โดยตรง จะได้นำไปปรับแก้ไขให้ตรงจุดและเป็นรูปธรรมในทุก ๆ ด้าน พร้อมกล่าวว่า การบริหารประเทศ รัฐบาล มุ่งมั่นในการวางรากฐานความมั่นคงและความเข้มแข็ง ด้วยการเร่งแก้ปัญหาในเรื่องต่าง ๆ  ที่มีปัญหาสะสมมานาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง  การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษา การบริหารราชการ การคอร์รัปชัน ควบคู่กับการสร้างประสิทธิภาพของการบริหารจัดการภาครัฐ และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องอย่างมีทิศทางและมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง จังหวัดเพชรบุรีว่า  เป็นเมืองที่มีของดีมากมาย  และมีศักยภาพในหลาย ๆ ด้าน ทั้งสภาพภูมิประเทศ ทรัพยากร และความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งมีต้นทุนทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เชิงสุขภาพ เชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อีกทั้งมีแหล่งผลิตสินค้าเกษตรมากมาย  ซึ่งจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยง และขยายผลผลิตให้มีรายได้ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาสัมผัสบรรยากาศและวิถีชีวิตของเมืองนี้  ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่การท่องเที่ยวของจังหวัดและส่งเสริมให้เศรษฐกิจของจังหวัดเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีขอให้จังหวัดได้มีการอนุรักษ์ สืบสาน ต่อยอดและส่งเสริมให้มีการเรียนรู้งานศิลปะและวัฒนธรรมของไทยทุกแขนง เพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าของชาติ และสืบสานให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาล โดยคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)  ได้จัดที่ดินทำกินให้กับประชาชนครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ  เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาการใช้ที่ดินทำกินของเกษตรกรและผู้ยากจนอย่างทั่วถึง เป็นธรรม และป้องกันการเสียสิทธิในที่ดินทำกินของเกษตรกรและผู้ยากจน และบริหารจัดการ ด้วยการจัดสรรที่ดินให้ผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่ดินทำกิน ในลักษณะแปลงรวมหรือชุมชนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ คทช. กำหนด ในรูปแบบสหกรณ์หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การสร้างรายได้ให้ชาวประมงว่า รัฐบาลพร้อมให้การส่งเสริมอาชีพชั่วคราว โดยมอบหมายให้กรมการจัดหางาน เตรียมความพร้อมในการส่งเสริมอาชีพให้กับชาวประมงในพื้นที่ 22 จังหวัดติดชายฝั่งทะเล เพื่อเพิ่มอาชีพและสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง  โดยการรับงานไปทำที่บ้าน  ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน  กระทรวงมหาดไทย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จะดูแลในเรื่องการตลาด โดยจัดจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์และบริการในระดับจังหวัดที่มีร้านค้าประชารัฐในบริเวณปั้มน้ำมัน  พร้อมรับซื้อและนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายและตามร้านค้าโอทอป สามารถสร้างความพอใจและสร้างความมั่นใจให้แก่สมาชิกในการดำเนินการร่วมกับกลุ่มต่อไป ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงเข้มแข็ง ยั่งยืนในอาชีพ ทำให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอีกด้วย



CR:รัฐบาลไทย



 

ข่าวทั้งหมด

X