บรรยากาศการแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ล่าสุดมีกลุ่มการเมืองลำดับที่ 44 เข้ามายื่นจดแจ้งต่อกกต. คือ พรรคพัฒนาประเทศไทย ที่นำโดยนาย อติโรจ บุญใย ว่าที่เลขาธิการพรรคฯนาย อติโรจ เปิดเผยว่า แม้จะเป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ แต่การเลือกตั้งครั้งหน้าคาดว่าพรรคจะส่งผู้สมัครลงได้อาจจะทุกเขตทั้ง 350 เขต โดยสมาชิกพรรคไม่มีนักการเมือง ส่วนมากจะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจและนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งก่อนส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง พรรคจะส่งผู้สมัครไปอบรมคุณธรรม และมั่นใจว่าพรรคจะได้คะแนนเสียงอย่างน้อย 3 ล้านเสียง ซึ่งจะทำให้มีที่นั่งในสภาอย่างน้อย 20 ที่นั่งอย่างแน่นอน สาเหตุที่มั่นใจว่าจะได้อย่างน้อย 20 ที่นั่ง มาจากการที่พรรคมีฐานเสียงของเกษตรกรหลายล้านคนอยู่ในตอนนี้ โดยพรรคยังมีสาขาพรรคกระจายอยู่ทั่วประเทศอยู่ด้วย
สำหรับนโยบายหลักของพรรคคือ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะราคาและคุณภาพของสินค้าเกษตรผ่านการลดต้นทุนและมีวิธีการผลิตที่ชัดเจน รวมถึงนโยบายการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน โดยทั้งหมดมุ่งไปสู่เป้าหมายสำคัญคือการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้พรรคยังมีนโยบายมุ่งสู่รัฐสวัสดิการ, การมีค่ารักษาพยาบาล และนโยบายด้านความมั่นคง เป็นต้น ซึ่งนโยบายต่างๆได้ผ่านการประเมินการชี้วัดมาแล้วว่าทำได้จริง ทั้งนี้จะมีการแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการอีกครั้งในภายหลัง ขณะที่ผู้นำ 3 คน คือ พล.อ.พันธ์ศักดิ์ จันทร์ด้ง วางให้เป็นว่าที่ผู้นำพรรค, พล.ต.จเร ชื่นชุ่ม เป็นว่าที่รองหัวหน้าพรรค และนาย อติโรจ เป็นเลขาฯพรรค โดยขณะนี้กำลังรอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) อนุมัติให้เปิดประชุมพรรคเพื่อทำการลงมติและดำเนินกิจกรรมได้
ส่วนทางการเมือง ยังไม่มีแนวคิดถึงเรื่องการสนับสนุนให้พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่ต่อหลังเลือกตั้ง และยืนยันว่าพรรคมีความเป็นกลางและจะไม่อยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยตั้งใจทำงานให้ประเทศ หากพรรคได้เสียงข้างมากในสภาจนตั้งรัฐบาลได้ พรรคจะเสนอตัวเป็นรัฐบาลและสนับสนุนหัวหน้าพรรคให้เป็นนายกฯแน่นอน แต่หากไม่ได้แล้วมีการเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นนายกฯคนนอก ก็ต้องดูว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะสนับสนุนนโยบายพรรคที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรมากน้อยเพียงใด เพราะพรรคมีจุดยืนสำคัญที่การช่วยเหลือประชาชน ส่วนที่ขณะนี้มีพรรคการเมืองใหม่กว่า 40 พรรคเข้ายื่นจดทะเบียนจะทำให้เกิดการแย่งฐานเสียงกัน ก็มองว่าอยู่ที่นโยบายแต่ละพรรคและการให้ความเห็นชอบของประชาชน
และก่อนจะยื่นเอกสารต่อกกต. นาย อติโรจ ยังได้โชว์หมายเลขโทรศัพท์ให้ดูพร้อมระบุว่า ผลลัพธ์ของหมายเลขโทรศัพท์ที่รวมกันได้ 54 จะทำให้พรรคชนะและได้เป็นรัฐบาลแน่นอน
...
ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร