การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือสนช. ล่าสุดที่ประชุมได้เข้าสู่วาระพิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จำนวน 7 คนแล้ว
พล.อ.อู้ด เบื้องบน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการสามัญฯ ได้ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อกกต.ทั้ง 7 คนเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เพื่อให้การประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบและตรวจสอบประวัติบุคคลเป็นไปโดยเรียบร้อยและปลอดภัย จึงเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเป็นการลับ ซึ่งไม่มีใครเห็นคัดค้าน ที่ประชุมจึงได้ขอให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนออกจากห้องประชุมทันที จนกว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จ โดยการประชุมเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติและให้ความเห็นชอบกกต.ชุดใหม่นี้เป็นการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น
ส่วนการลงมติจะเป็นการลงมติลับเพื่อให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ซึ่งผู้ที่ได้รับการเห็นชอบจะต้องได้คะแนนเสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง หรือ 124 เสียงจากจำนวนสมาชิกสนช. 248 เสียงที่มีอยู่
หลังจากลงมติแล้วหากมีผู้ได้รับการเห็นชอบเป็นกกต.อย่างน้อย 5 คน ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการต่อไปเพื่อเตรียมนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯได้ทันที โดยผู้ที่ได้รับความเห็นชอบเป็นกกต.จะต้องลาออกจากตำแหน่งทุกตำแหน่งที่เป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามภายใน 15 วัน และอีก 15 วัน จะต้องนำหลักฐานมาแสดงต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ก่อนที่จะมีการนัด กกต.ชุดใหม่ มาประชุมเพื่อเลือกตำแหน่งประธาน กกต. หลังจากนั้นประธานสนช.จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป และทันทีที่ กกต.ชุดใหม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ก็สามารถเริ่มทำงานได้ทันที ส่วนหากมีผู้ไม่ได้รับการเห็นชอบก็จะต้องเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ตามจำนวนที่ไม่ได้รับการเห็นชอบนั้น
สำหรับบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเห็นสมควรให้เป็นกกต.ชุดใหม่ 7 คน มีที่มาจาก 2 ทาง ประกอบด้วย จากคณะกรรมการสรรหาจำนวน 5 คน คือ 1. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ 2. นายเรืองวิทย์ เกษสุวรรณ 3. นางชมพรรณ์พงษ์เจริญ สุธีรชาติ 4. นายประชา เตรัตน์ และ5. นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ ส่วนอีก 2 คนมาจากมติที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา คือ นาย ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี และนาย ปกรณ์ มหรรณพ
...
ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร