ผบช.น.คาดพรุ่งนี้รู้ผลสอบตร.แจกอั่งเปา/ตร.เรียกป้าทุบรถ รับทราบข้อหา26ก.พ./หุ้นไทย ไร้ปัจจัยใหม่ ปิดตลาดร่วง

20 กุมภาพันธ์ 2561, 21:13น.


 +++ความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีอ้างว่า ร.ต.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์ รองสารวัตรสืบสวน กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1(รอง สว.สส.กก.4 บก.ส.1) แจกอั่งเปาตำรวจ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) คาดว่า จะทราบผลภายในวันพรุ่งนี้ ทาง บก.น.7 เป็นฝ่ายรับผิดชอบ เบื้องต้น จากการตรวจสอบภายในซองอั่งเปา มีวัตถุมงคลและเป็นเงินธนบัตร 500 บาทฉบับเดียว ขณะที่มีกระแสว่ามีตำรวจนอกพื้นที่ บก.น.7 เข้ามารับซองอั่งเปากับ ร.ต.ต.มานัส ต้องให้เวลาตรวจสอบก่อน และดูว่าขณะนั้นเขาอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หากไม่ได้ละทิ้งหน้าที่ ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย



+++เมื่อถามถึงความเหมาะสมหรือไม่กับการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อแถวเข้าไปรับซองอั่งเปากับร.ต.ต.มานัส และความผิดทางวินัย พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า ต้องดูหลายอย่างหากพูดไป ก็เหมือนเข้าข้างตำรวจด้วยกัน ส่วนที่มีข้าราชการเข้าไปรับของ ก็เป็นเรื่องของอีกส่วนหนึ่ง



+++เมื่อถามว่าในอดีต ร.ต.ต.มานัส เคยถูกตั้งกรรมการสอบมาก่อน กระบวนการตรงนี้ไปถึงไหนแล้ว ทำไมถึงกลับมาเป็นตำรวจ พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า ต้องเข้าใจก่อนว่า ร.ต.ต.มานัส ไม่เคยถูกจับกรณีเรื่องบ่อนมาก่อน และในขณะนี้ ร.ต.ต.มานัส ไม่ได้อยู่ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) แต่ขอยืนยันว่าจะไม่ปกป้อง ร.ต.ต.มานัส



+++พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผู้กำกับสน.ประเวศ กล่าวถึง ความคืบหน้ากรณี น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ อายุ 61 ปี และ น.ส.ราณี แสงหยกตระการ อายุ 57 ปี ใช้ขวานและเสียมทุบทำลายรถยนต์กระบะที่จอดขวางประตูเข้าออกหน้าบ้าน เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกทั้งสองคนมารับทราบข้อกล่าวหา 26 ก.พ.นี้ เวลา 13.00 น.หากไม่มา จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 หากไม่มาอีก จะพิจารณาขอศาลออกหมายจับ ทั้งนี้ จะแจ้งรวม 3 ข้อหา คือ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ , ข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีเหตุอันควร



+++ส่วนการดำเนินคดีกับรถที่กีดขวาง เบื้องต้นได้เปรียบเทียบปรับเจ้าของรถในข้อหา จอดรถตรงปากทางเข้าออกอาคารในลักษณะกีดขวางการจราจรมีโทษปรับ 500 บาท ส่วนข้อหาก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญยังไม่มีการแจ้งเนื่องจากต้องรอให้เจ้าทุกข์มาแจ้งความก่อน



+++พ.ต.อ.อลงกรณ์ ยังฝากถึงเจ้าของบ้าน หากพบการจอดรถในลักษณะกีดขวางทางเข้าออกบ้าน ให้แจ้งตำรวจเข้าไปดำเนินการ ภายในสัปดาห์นี้ จะเรียกประชุมสำนักงานเขตประเวศ เจ้าของตลาด 3 - 4 แห่ง ในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาแนวทางการป้องกันแก้ไข ไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีก



+++หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ทยอยเดินทางกลับ หลังจากที่นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ได้ลงนาม MOU กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้าสำนักงาน UN 1.ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ถอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ของโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ออกจากสำนักงานนโยบายและแผนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันลงนาม 2.ให้กระทรวงพลังงาน จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ (SEA)เพื่อศึกษาว่าพื้นที่จังหวัดกระบี่และอำเภอเทพาจังหวัดสงขลา มีความเหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือไม่ ให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 9 เดือน โดยต้องมีนักวิชาการที่เป็นกลาง และเป็นที่ยอมรับทั้งสองฝ่าย หากผลออกมาว่าพื้นที่ไม่เหมาะสมทำโรงไฟฟ้าถ่านหิน กฟผ. จะต้องยุติสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งสองพื้นที่ 3.หากผลรายงานออกมาว่าเหมาะสมต่อการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ในขั้นตอนการทำ EHIA จะต้องจัดทำโดยคนกลางที่ยอมรับร่วมกัน และ 4.ให้คดีระหว่างเครือข่ายผู้ชุมนุมกับกฟผ.เลิกแล้วต่อกัน



+++ด้านเครือข่ายคนเทพาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่เห็นด้วยและขอคัดค้านการตัดสินโดยพละการของนายศิริ จึงมีการนัดรวมตัวกัน แถลงข่าวคัดค้านเมื่อช่วงบ่ายวันนี้  ที่ศูนย์ประสานงานโครงการโรงไฟฟ้าเทพา (ตรงข้ามโรงเรียนเทพา) โดยมีเนื้อหาระบุว่า รัฐมนตรีพลังงาน ไม่เป็นธรรมที่ไปฟังคนส่วนน้อยและส่วนใหญ่เป็น NGOs นอกพื้นที่ เห็นว่า การตัดสินใจเชิงนโยบายในครั้งนี้ ไม่เป็นไปตามหลักกฎหมาย และมีผลประโยชน์แอบแฝง เครือข่ายคนเทพาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน จะไปแจ้งความที่ สภ.เทพา ดำเนินคดีกับนายศิริ ตามมาตรา 157 ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งการลงนามบันทึกข้อตกลงดังกล่าวเป็นการตกลงที่เกินกว่าอำนาจของรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ยอมรับและขอคัดค้านข้อตกลงทั้งหมด นอกจากนี้จะไปยื่นต่อศาลปกครองให้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวและไต่สวนฉุกเฉิน  นอกจากนี้ จะมีการส่งตัวแทนเดินทางขึ้นไปฟังคำตอบที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ด้วย



+++ความคืบหน้ากรณีนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คนเข้าไปลักลอบตั้งแคมป์ล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ได้พร้อมของกลางกลางซากสัตว์ป่าคุ้มครองเสือดำถูกแหละถลกหนัง เก้ง ไก่ฟ้าหลังเทา อาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ.



+++ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำทั้งฝ่ายนายเปรมชัย และพวกรวม 4 คน เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก อีก 13 คนไปแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีการเรียกใครมาให้ปากคำเพิ่มเติม  ในส่วนของข้อกล่าวหารวมทั้งหมดเวลานี้มี 10 ข้อกล่าวหาด้วยจากเดิมมี 9 ข้อหาแต่เพิ่มอีก 1 ข้อหาที่มีการแจ้งความเพิ่ม คือ ทารุณกรรมสัตว์ ในข้อกล่าวหานี้จะได้ประสานเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ที่ด่านกักกันสัตว์ อ.สังขละบุรี มาให้ข้อมูลในรายละเอียดข้อกฎหมาย เพราะเป็นกฎหมายใหม่ ต้องทำให้รัดกุมที่สุดในแต่ละข้อกล่าวหา



+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดที่ 1,801.02 จุด ลดลง 8.65 จุด  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย  44,081.81 ล้านบาทว่า หุ้นไทยปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ทั้งยุโรป และเอเชีย เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ และในวันนี้ต่างชาติเทขายในช่วงท้ายตลาดทำให้หุ้นไทยปิดลบ แนวโน้มพรุ่งนี้ ตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับตัวลงต่อตามตลาดต่างประเทศ  



+++การลงทุนในตลาดหุ้นฮั่งเส็งลดลง 241.80 จุด ปิดที่ 30,873.63 จุด นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมในวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย

+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ร่วงลง 224.11 จุด ปิดที่ 21,925.10 จุด ดัชนี ปรับตัวลงปิดแดนลบเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร ประกอบกับบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้



+++สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานอ้างนางโยลันดา ซินทูรา ผู้ว่าราชการกรุงมาปูโต โมซัมบิกว่า มีคนเสียชีวิต 17 ศพ และบาดเจ็บหลายคน หลังขยะขนาดมหึมาแห่งหนึ่งสไลด์ทับบ้านเรือนของประชาชนในแถบชานเมืองหลวง หลังฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เช้ามืดวันจันทร์ ผู้เสียชีวิตเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยรอบบ่อถมขยะ นอนหลับในช่วงที่ฝนตกหนักในช่วงเช้ามืดวันเกิดเหตุ



+++หน่วยกู้ภัย รีบเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตและเก็บกู้ศพ ผู้ว่าราชการกรุงมาปูโต โมซัมบิก เพิ่มเติมว่า รัฐบาลท้องถิ่นจะประชุมจัดทำแผนในวันนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุที่น่าเศร้าสลดเช่นนี้อีกในอนาคต ภารกิจเร่งด่วนในระยะนี้คือการหาทำเลเพื่อจัดทำโครงการที่พักอาศัยให้ผู้ไร้บ้านเรือน



+++ก่อนหน้านี้ เคยเกิดเหตุกองขยะสไลด์ลงมาปิดถนนใกล้เคียงเส้นหนึ่ง ทีมกู้ภัยใช้เวลา 2 วันจึงสามารถเก็บกวาดขยะออกจากถนนเพื่อใช้สัญจรได้ตามปกติ



 



แฟ้มภาพ 



 





 

ข่าวทั้งหมด

X