'รองสมคิด'คาดส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง/สลายม็อบเทพา/ศาลเยาวชนตัดสินผู้เยาว์13คนเป็นบุตรนักธุรกิจญี่ปุ่น

20 กุมภาพันธ์ 2561, 12:24น.


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภาพรวมการส่งออกจะขยายตัวต่อเนื่อง ตามที่มีความร่วมมือที่ดีของภาครัฐและเอกชน โดยกระทรวงพาณิชย์ประเมินว่าปีนี้ การส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 8 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวและราคาน้ำมันมีเสถียรภาพ



ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าจะเร่งเดินหน้ากลยุทธ์พันธมิตรหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) เน้นสร้างผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งตลาดเดิมและตลาดใหม่ โดยเฉพาะเมืองเศรษฐกิจขนาดรองของจีน นอกจากนี้ยังมอบให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมมือกันพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถเจาะตลาดการค้าออนไลน์ ผ่านช่องทาง Thaitrade.com



ในวันนี้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมภริยา และคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์อย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกองทัพสิงคโปร์ตามคำเชิญของ พล.อ.เมลวิน ออง ผู้บัญชาการทหารบกของสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 20-22 กุมภาพันธ์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ โดยมีกำหนดรับเหรียญอิสริยาภรณ์เชิดชูเกียรติด้านการทหารจากรัฐมนตรีกลาโหมของสิงคโปร์ด้วย



อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปสิงคโปร์ครั้งนี้ เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พักผ่อนอยู่ที่สิงคโปร์เป็นเวลา 1 สัปดาห์



ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ยุติโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ตามที่เมื่อคืนนี้ ผู้ชุมนุมส่งตัวแทนเข้าพบนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จากนั้นในช่วงเช้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและตัวแทนผู้ชุมนุมลงนามในหนังสือสัญญายุติโครงการ ซึ่งดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ในฐานะที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม เปิดเผยผลการหารือ 3 ข้อคือ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ขอให้ กฟผ.ถอนรายงาน EHIA ทั้งโรงไฟฟ้าเทพาและโรงไฟฟ้ากระบี่จาก สผ. ภายใน 3 วัน จากนั้นให้มีการทำ SEA (รายงานสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์) ในทั้ง 2 พื้นที่ โดยคนกลาง ภายใน 9 เดือน และหากผลออกมาว่าไม่เหมาะสม ให้หยุดการดำเนินการใดๆ แต่หากผลการศึกษา SEA ชี้ว่าเหมาะสม ในขั้นตอนทำ EHIA ต้องจัดทำโดยคนกลางที่ยอมรับร่วมกัน ซึ่งดร.ธรณ์ ขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้ทุกอย่างยุติโดยปราศจากความขัดแย้ง และผู้ชุมนุมประกาศกลับบ้านแล้ว



ศาลจังหวัดขอนแก่น นัดสืบพยานโจทก์คดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา หรือแอ๋ม กลิ่นจุ้ย ในพื้นที่ สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2560 โดยมีจำเลยคือ น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย และน.ส.กวิตา หรือเอิร์น ราชดา, น.ส.อภิวันทน์ หรือแจ้ สัตยบัณฑิต, นายวศิน หรือนิว นามพรหม ซึ่งทั้ง 4 คนถูกดำเนินคดีฆ่าโดยไตร่ตรองและฝังซ่อนเร้นศพ ขณะที่ น.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ พรหมคุณ ถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ โดยอัยการได้นัดสืบพยานโจทก์เป็นนัดแรก ตั้งแต่พบศพ น.ส.วริศราจนถึงการจับกุมผู้ต้องหา



ส่วนศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พิพากษาให้ผู้เยาว์ทั้ง 13 คนซึ่งเกิดจากการตั้งครรภ์แทน หรือ การอุ้มบุญ เป็นบุตรของนายชิเกตะ มิตซูโตกิ นักธุรกิจชาวญี่ปุน โดยชอบตามกฎหมาย หลังพบว่าเขาเตรียมการอุปการะเด็กเหล่านั้นและไม่พบพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ทั้งมีหลักฐานว่าเตรียมพร้อมพาบุตรไปอุปการะเลี้ยงดูที่ประเทศญี่ปุ่นโดยเตรียมสถานที่เลี้ยงดูที่มีความปลอดภัยและสะดวก รวมถึงมีการเปิดบัญชีกองทุนให้แก่บุตรทั้ง 13 คนที่ประเทศสิงคโปร์อีกด้วย



ข่าวต่างประเทศ นายโรเบิร์ต มุลเลอร์ อัยการพิเศษ กำลังตรวจสอบกรณีที่นาย เจเร็ด คุชเนอร์ บุตรเขยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ชักชวนนักลงทุนต่างชาติรวมถึงนักลงทุนจากรัสเซียและจีนเข้ามาร่วมการลงทุนทางธุรกิจในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล นอกจากนี้ยังพบว่า เขาติดต่อกับเจ้าหน้าที่จาก 15 ประเทศมากกว่า 50 ครั้งในช่วงเวลานั้น



กลุ่มสังเกตกรณ์สิทธิมนุษยชน รายงานว่า กองทัพรัฐบาลซีเรียและกลุ่มติดอาวุธผู้สนับสนุนโจมตีเขตอิทธิพลของฝ่ายกบฏในย่านกูตาตะวันออกชานกรุงดามัสกัส ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 94 รายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง แต่รัฐบาลซีเรียยืนยันว่าการโจมตีมีเป้าหมายคือกลุ่มติดอาวุธ



สงครามกลางเมืองซีเรียซึ่งดำเนินมานาน 8 ปีทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายแสนคน ขณะที่ชาวซีเรียอีกนับล้านคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น



...

ข่าวทั้งหมด

X