นายอาซาดุสซามัน ข่าน รมว.กิจการภายในบังกลาเทศ ได้ส่งมอบรายชื่อชาวโรฮิงญาจำนวน 8,032 คน จาก 1,673 ครอบครัวที่ต้องการเดินทางกลับเมียนมาให้แก่ พล.ท.จ่อ ส่วย รมว.กิจการภายในเมียนมาหลังเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศจัดการประชุมหารือเรื่องดังกล่าวในกรุงธากา นครหลวงของบังกลาเทศ โดยนายข่านเปิดเผยว่า คณะผู้แทนเมียนมาได้แจ้งว่า จะเริ่มกระบวนการรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา แต่ยังไม่ได้ระบุกรอบเวลาเริ่มต้น แต่ก็คาดหวังว่าจะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ หลังจากกระบวนการดังกล่าวล่าช้ามาตั้งแต่เดือนที่แล้ว เนื่องจากขาดความพร้อม ประกอบกับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาประท้วงที่ไม่ได้รับหลักประกันด้านความปลอดภัยและความเป็นพลเมือง ก่อนเดินทางกลับเมียนมา ทั้งที่อยู่อาศัยในเมียนมามาหลายชั่วอายุคน
อย่างไรก็ตาม คณะผู้แทนเมียนมารับปากว่า จะพยายามดำเนินการอย่างดีที่สุดในการหยุดยั้งชาวโรฮิงญามิให้เดินทางข้ามเข้าไปในบังกลาเทศ ขณะที่นายข่านได้กระตุ้นเมียนมาให้การรับรองความมั่นใจว่า ชาวโรฮิงญาจะได้เดินทางกลับเมียนมาโดยตลอด เนื่องจากปัจจุบันมีชาวโรฮิงญาอาศัยอยู่ในค่ายทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศเป็นจำนวนกว่า 1 ล้านคน ในจำนวนนี้เกือบ 700,000 คนหนีภัยจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของกองทัพเมียนมามาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว นอกจากนี้ นายข่านยังเสริมว่า คณะผู้แทนเมียนมาได้ร้องขอให้จัดการประชุมร่วมกันกรณีการส่งผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากลับเมียนมาอีกครั้งในวันที่ 20 ก.พ.
วันเดียวกัน นางคริสเตีย ฟรีแลนด์ รมว.ต่างประเทศแคนาดา แถลงว่า แคนาดาได้คว่ำบาตร พล.ต.หม่อง หม่อง โซ ผบ.กองทัพเมียนมาในการใช้ความรุนแรงบังคับให้ชาวโรฮิงญาเกือบ 700,000 คนต้องหนีภัยไปยังบังกลาเทศ โดยระบุว่า บุคคลดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวโรฮิงญาในเมียนมา และควรต้องมีการนำตัวผู้รับผิดชอบมาดำเนินคดี สำหรับการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรของแคนาดามีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตร พล.ต.หม่อง หม่อง โซ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยการคว่ำบาตรจะครอบคลุมทั้งการอายัดทรัพย์สินในแคนาดา รวมถึงการสั่งห้ามติดต่อกับ พล.ต.หม่อง หม่อง โซ
ทีมต่างประเทศ
CR:AFP,arynews.tv