*มาเลเซียหวังว่าสัญญาณเสียงใต้ทะเลที่ตรวจพบจะมาจากกล่องดำของเครื่องบินที่สูญหาย*

นายฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รักษาการรัฐมนตรีขนส่งของมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียหวังว่า สัญญาณที่ตรวจพบจากเรือค้นหาของออสเตรเลียและจีนจะมาจากกล่องบันทึกเสียงและข้อมูลการบิน หรือกล่องดำของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ที่สูญหายของมาเลเซียแอร์ไลน์ การแถลงข่าวประจำวันนี้ เขากล่าวว่า ทางการออสเตรเลียได้สรุปคืบหน้าเรื่องนี้ให้นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซีย รับทราบแล้วที่เมืองเพิร์ธ นายฮิชามมุดดิน กล่าวว่า เขามองโลกในแง่ดีกับเบาะแสล่าสุดนี้มากกว่าครั้งก่อนๆ พร้อมทั้งขอให้ทุกคนร่วมกันสวดมนต์ให้การค้นหาประสบความสำเร็จ และไม่ละทิ้งความหวังในเรื่องนี้

เขากล่าวว่า มีการจัดตั้งคณะทำงานระดับกระทรวง 3 ชุดคือ คณะกรรมการครอบครัวและแพทย์, คณะกรรมการติดตามด้วยเทคโนโลยี และคณะกรรมการจัดกำลังเพื่อการค้นหา เพื่อทำหน้าที่ประสานงานในด้านต่างๆ และจะรายงานผลการทำงานให้สาธารณชนได้ทราบในเวลาที่เหมาะสมต่อไป ด้านรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซีย จะแถลงว่าจะมีการส่งคณะญาติผู้โดยสารชุดต่อไปยังเมืองเพิร์ธเมื่อใด แต่จะมีการจัดเตรียมการเดินทางและที่พักให้กับญาติผู้โดยสารก็ต่อเมื่อพบซากเครื่องบินแล้วเท่านั้น

ด้าน นายอาหมัด เจาฮานี ยะห์ยา ซีอีโอของมาเลเซียแอร์ไลน์ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวในวันนี้ว่า บริษัทฯประสบปัญหารายได้ลดลงอยู่ก่อนแล้วจากกระแสการแข่งขันที่รุนแรง มีงานที่ต้องทำอีกหลายอย่างเพื่อฟื้นฟูธุรกิจของบริษัทฯ โดยเฉพาะการเร่งสร้างภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัย หลังเกิดเหตุสูญหายของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ก่อนหน้านี้ มาเลเซียแอร์ไลน์ได้รายงานว่า ขาดทุน 1,170 ล้านริงกิตเมื่อปีก่อน สูงเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นอกจากนั้น ยังขาดทุน 2,500 ล้านริงกิตและ 433 ล้านริงกิต ตามลำดับเมื่อปี 2554 และ 2555 และในปีนี้ การสูญหายของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ทำให้บริษัทฯหวั่นเกรงว่า จะประสบปัญหาขาดทุนอีกเนื่องจากผู้โดยสารหวั่นเกรงเรื่องความไม่ปลอดภัย แม้ว่าก่อนหน้านี้ มาเลเซียแอร์ไลน์เคยอวดอ้างว่ามีความปลอดภัยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ส่วนจะลาออกเพื่อรับผิดชอบกรณีการสูญหายของเครื่องบินหรือไม่ นายอาหมัด เจาฮารี กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องตำแหน่งของเขา เขามีงานหลายอย่างต้องทำกับสายการบินนี้ ด้านนักวิเคราะห์ าระบุว่าสิ่งที่ยังคงทำให้สายการบินนี้สามารถดำเนินธุรกิจได้จนถึงปัจจุบันนี้คือ การสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการลงทุนของรัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งถือหุ้นในสายการบินนั้นร้อยละ 70 ด้านบริษัทกฏหมายแห่งหนึ่งในสหรัฐ กล่าวว่า จะยื่นฟ้องมาเลเซียแอร์ไลน์และบริษัทโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐ เพื่อเรียกค่าเสียหายหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ/20.14 น.