นายกเทศมนตรีนิวยอร์คประณามเหตุก่อการร้าย/เวิลด์แบงค์ จัดไทยติด1ใน10ศก.พัฒนา/สอบสื่อออนไลน์ยักษ์ใหญ่เอาผิดรัสเซีย

ทันสถานการณ์โลกเวลา 06.30น.

+++คนร้ายขับรถกระบะพุ่งชนผู้คนบนเลนจักรยานในย่านโลเวอร์แมนฮัตตัน นิวยอร์ก สหรัฐฯ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คนและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากในช่วงบ่ายวันอังคาร(31ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนถูกตำรวจจับได้ โดยเจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตคดีนี้เป็น เหตุโจมตีก่อการร้าย รถกระบะคันนี้ พุ่งชนรถยนต์อีกคัน หลังไล่กวาดนักปั่นจักรยานและคนเดินถนนหลายคน จากนั้นก็คนขับก็ลงจากรถพร้อมกวัดแกว่งอาวุธปืนปลอม ก่อนถูกตำรวจยิงได้รับบาดเจ็บและเข้าควบคุมตัว

+++ด้านบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์กเปิดแถลงข่าวยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิต 8 รายและประณามเหตุการณ์นี้ว่าเป็น "ฝีมือก่อการร้าย" และเป็นวันที่เจ็บปวดอย่างยิ่งในเมืองของเรา เหตุการณ์อันน่าสลดในแถบเวสต์ไซด์ จากข้อมูลที่เรามีในตอนนี้ มันเป็นฝีมือก่อการร้ายและเป็นการลงมือก่อการร้ายที่ขี้ขลาดตาขาว ซึ่งมีเป้าหมายเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ เป้าหมายเอาชีวิตผู้คนที่ไม่เคยติดมาก่อนว่าจะถูกทำร้าย จากข้อมูลที่เรามีในตอนนี้ เราทราบว่ามีผู้บริสุทธิ์ 8 คนต้องมาเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับฟังรายงานสรุปสถานการณ์ จากนั้นเขียนลงทวิตเตอร์ประณามเหตุโจมตีก่อการร้ายที่เข่นคร่าชีวิตผู้คน 8 ศพ ในนิวยอร์ก เมืองบ้านเกิดของเขา ว่าเป็นฝีมือของพวกบ้า "ในนิวยอร์ก ดูเหมือนจะโดนโจมตีจากคนบ้าและป่วยทางจิตอีกครั้ง" เขาทวิต

+++สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานอ้างสถานีโทรทัศน์อาซาฮีของญี่ปุ่นที่อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่า เหตุอุโมงค์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างแห่งหนึ่งในสถานทดลองนิวเคลียร์เกาหลีเหนือถล่มลงมาเมื่อวันที่ 10 กันยายน อาจมีคนงานถูกฝังเสียชีวิตทั้งเป็นมากถึง 200 ศพ โดยในวันเกิดเหตุคนงานราว 100 คนติดอยู่ในอุโมงค์ที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จในสถานทดลองนิวเคลียร์พุงเกรีที่ถล่มลงมาหลังจากเกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 3 กันยายน ส่วนคนอีก 100 คนได้เข้าไปช่วยเหลือคนงานกลุ่มแรกอาจจะเสียชีวิตทั้งหลังเกิดเหตุอุโมงค์ถล่มซ้ำเป็นครั้งที่สอง รวมแล้วคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะมากถึง 200 ศพ แต่รายงานไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ด้านผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แรงสั่นสะเทือนและดินถล่มที่เกิดขึ้นหลายระลอกหลังการทดลองนิวเคลียร์ครั้งนั้น ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดอาจจะทำให้พื้นดินในบริเวณดังกล่าวไม่มั่นคงแข็งแรงและอาจจะยุบตัวลงได้ตลอดเวลา 

+++ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างหน่วยบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯว่า กองทัพอากาศสหรัฐฯได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นบี-2 ลำหนึ่งจากฐานทัพอากาศไวท์แมนในรัฐมิสซูรี ไปปฏิบัติภารกิจในมหาสมุทรแปซิฟิค นอกจากนี้ กองทัพเรือสหรัฐฯได้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำคือเรือยูเอสเอส นิมิตซ์และเรือยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ ไปสมทบกับเรือยูเอสเอส โรนัลด์เรแกน ที่ประจำอยู่ในญี่ปุ่น และกองทัพอากาศสหรัฐฯจะส่งเครื่องบินล่องหนรุ่นเอฟ-35 จำนวน 12 ลำเข้ามายังมหาสมุทรแปซิฟิคเป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยจะประจำอยู่ที่ฐานทัพอากาศคาเดนะ บนเกาะโอกินาวา ทางภาคใต้ของญี่ปุ่น ด้านนักวิเคราะห์หลายคนระบุว่าอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้ จะมีบทบาทสำคัญมาก ถ้าหากว่าสหรัฐฯตัดสินใจโจมตีเกาหลีเหนือจริงๆ

+++เวิลด์แบงค์ ระบุว่า ชาติเศรษฐกิจกำลังพัฒนาอย่าง ไนจีเรีย, อินเดีย, ไทยและเอล ซัลวาดอร์ มีความก้าวหน้ามากสุดในการปรับปรุงบรรยากาศทางธุรกิจ ขณะที่นิวซีแลนด์และสิงคโปร์ ยังคงรักษาอันดับต้นๆของโลกด้านความสะดวกในการประกอบธุรกิจ รายงาน Doing Business ประจำปี 2017 ของเวิลด์แบงค์ ระบุว่า นิวซีแลนด์, สิงคโปร์ และเดนมาร์ก ยังคงครองอันดับ 1, 2 และ 3 ตามลำดับประเทศที่มีความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ตามด้วย เกาหลีใต้, เขตปกครองพิเศษฮ่องกง, จีน, สหรัฐฯ, นอร์เวย์, จอร์เจีย และสวีเดน สำหรับท็อป 10 ของประเทศที่มีความก้าวหน้าในการปรับปรุงบรรยากาศทางธุรกิจมากที่สุด บนพื้นฐานของการลงมือปฏิรูป ได้แก่ บรูไน(2ปีติดต่อกัน), ไทย, มาลาวี, โคโซโว, อินเดีย, อุซเบกิสถาน, แซมเบีย, ไนจีเรีย, จิบูตี และเอลซัลวาดอร์ โดยประเทศที่ติดอันดับ 10 ชาติที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด ทั้งด้านระดับและขนาดของรายได้ มีถึงครึ่งหนึ่งที่ติดอันดับเป็นครั้งแรก ได้แก่ เอลซัลวาดอร์, อินเดีย, มาลาวี

+++ราคาน้ำมันโลก ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ไลท์สวีทครูซปิดตลาด 54.23 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น25 เซนต์ ส่วนเบรนท์ ตลาดลอนดอน ที่ 61.37 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาด เพิ่มขึ้น 28.50จุด ที่ 23,377.24 จุด ราคาทองคำโคเม็กซ์ ปิดที่ 1,271.90 เหรียญ เพิ่มขึ้น 1 เหรียญ 40 เซนต์

+++บีบีซีรายงานอ้างร่างเอกสารคำชี้แจงที่คณะผู้บริหารของเฟซบุค ยักษ์ใหญ่ด้านสื่อสังคมออนไลน์สหรัฐฯ จัดทำเพื่อชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการด้านข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภาสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้ว่า ผู้ใช้เฟซบุคชาวอเมริกันราว 126 ล้านคนอาจจะได้เห็นข้อความต่างๆที่ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทแห่งหนึ่งในรัสเซียและมีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลรัสเซีย อัพโหลดข้อมูลเข้าสู่ระบบของเฟซบุคในช่วง 2 ปีที่แล้ว ระบุว่ามีการโพสต์ข้อมูลต่างๆราว 8 หมื่นรายการทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว ส่วนใหญ่มีเนื้อหาที่มุ่งจะสร้างความแตกแยกทางสังคมและการเมืองในสหรัฐฯ เฟซบุคได้เปิดเผยเรื่องนี้ ก่อนการเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่ผ่านมารัฐบาลรัสเซียปฏิเสธมาตลอดว่าไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว ขณะเดียวกันข่าวใหญ่อีกเรื่องหนึ่งเมื่อวานนี้คือการสอบสวนของนายโรเบิร์ต มูเอลเลอร์ อัยการอิสระ เพื่อดูว่ามีการสมคบกันระหว่างทีมรณรงค์หาเสียงของนายทรัมป์กับรัฐบาลรัสเซียหรือไม่ นำไปสู่การแจ้งข้อหาผู้ต้องหา 3 รายแรกในทีมรณรงค์หาเสียงของนายทรัมป์คือ นายพอล มานาฟอร์ท นายริค เกทส์และนายจอร์จ ปาปาโดปูลอส