กลุ่มผู้ค้าน้ำมันเชื่อการบริโภคน้ำมันทั่วโลกปีหน้าไม่ลด ความต้องการใช้รถไฟฟ้ายังน้อย

การแลกเปลี่ยนข้อมูลในงานสัมมนา 2017 The Annual Petroleum Outlook Forum  นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ประธานในงานสัมมนา เปิดเผยว่า การแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็นในการวิเคราะห์แนวโน้มราคาน้ำมัน กับหน่วยงานต่างๆ มีความสำคัญ และเป็นประโยชน์ต่อการวางแผน การตัดสินใจ เป็นปัจจัยที่จะลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้นผู้ที่จะต้องลงทุนด้านต่างๆ จำเป็นต้องมีข้อมูลให้เพียงพอ

นางสาวปิยธิดา พลอยประดิษฐ์ นักวิเคราะห์ จากบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2018 จะมีความต้องการใช้น้ำมัน 1.4-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยความต้องการใช้น้ำมันของโลกขึ้นอยู่กับปัจจัยเศรษฐกิจ, เทคโนโลยี และนโยบายสิ่งแวดล้อม โดยปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตร้อยละ 3.7 กลุ่มประเทศที่มีความต้องการใช้น้ำมันสูงที่สุด ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา, EU, จีน และอินเดีย  โดยปีหน้า คาดว่าแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริการ้อยละ 2.3 จากนโยบายการปรับลดภาษีของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จากประเทศที่มีอัตราการบริโภคสูง ประชากรมากกว่าร้อยละ 90 จะมีรถอย่างน้อยคนละ 1 คัน จึงทำให้มีแนวโน้มการใช้น้ำมันสูงขึ้นด้วย

ส่วนประเทศในกลุ่ม EU เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จากปัจจัยการเมืองของประเทศต่างๆ เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงต้องติดตามการเลือกตั้งในประเทศอิตาลีต่อไป ทั้งนี้ประเทศในกลุ่ม EU เริ่มให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และมีการนำพลังงานทดแทนมาใช้มากขึ้น จึงกระทบต่อการใช้น้ำมันแน่นอน

ด้านเศรษฐกิจของจีน ในปีหน้าจะเติบโตร้อยละ 6.5 แม้จะลดลงจากเดิม แต่ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจจะถดถอย เพราะจีนเริ่มมีการเติบโตอย่างมั่นคง ตามนโยบายของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ที่มุ่งเน้นการให้บริการ และลดอัตราการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ที่หวังว่าจะนำประเทศจีนให้เติบโตแซงหน้าสหรัฐอเมริกา ภายในปี 2050 อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามคือ ภาระหนี้สินของภาคเอกชนที่ยังคงสูงอยู่ ส่วนความต้องการใช้น้ำมัน ประเทศจีนมีแนวโน้มที่สูงขึ้น จากความต้องการใช้รถยนต์ขนาดใหญ่มากขึ้น

ส่วนอินเดีย มีแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้า เติบโตร้อยละ 7.4 แม้จะมีประชากรมากใกล้เคียงกับประเทศจีน แต่มีอัตราการใช้น้ำมันต่ำกว่ามาก แต่จะมีแนวโน้มเติบโตสูง โดยคาดว่าในอนาคต ประชากรจะซื้อรถมากขึ้นร้อยละ 7 โดยรัฐบาลเองก็มีนโยบายการการก่อสร้างถนนให้มากขึ้น โดยกำหนดให้สร้างถนน 40 กิโลเมตรต่อวันด้วย นอกจากนี้รัฐบาลอินเดีย มีความพยายามผลักดันให้ประเทศอินเดีย เป็นประเทศ "Make in India" โดยการเชิญชวนต่างประเทศมาลงทุน และผลิต นางสาวปิยธิดา ระบุถึงปัจจัยเทคโนโลยี ในด้านแนวโน้มการใช้รถยนต์ไฟฟ้าว่า มียอดขายอย่างก้าวกระโดด ขณะนี้มีรถยนต์ไฟฟ้า 2 ล้านคัน แต่รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงขณะนี้มีสูงถึง 1,000 ล้านคัน จึงมีอัตราน้อยมากอย่างเห็นได้ชัด โดยร้อยละ 50 มองว่ารถยนต์ไฟฟ้า มีราคาสูง บริษัทผู้ผลิตมีน้อย ระยะทางในการวิ่งน้อย และสถานีจ่ายไฟ ยังมีอยู่น้อยเช่นกัน จึงคาดว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้า จะยังไม่กระทบต่อปริมาณความต้องการใช้น้ำมัน

ส่วนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม หลายประเทศให้ความสนใจมากถึง 195 ประเทศ จาก 197 ประเทศ โดยเห็นด้วยกับนโยบายควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้สูง 2 องศาเซลเซียส แต่ในเรื่องการปฏิบัติ มีความเป็นไปได้ว่ามีหลายประเทศ ไม่ได้ปฏิบัติตาม เนื่องจากไม่มีบทลงโทษที่ชัดเจน ปัจจัยดังกล่าว จึงไม่มีผลกระทบต่อการใช้น้ำมัน