กรธ.ส่งพรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.ให้สนช.21พ.ย./สปส.แจงยังมีอีกหลายขั้นตอนจ่ายสมทบกองทุนประกันสังคม/น้ำมันโลกปรับขึ้น

+++คณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้ความเห็นชอบแต่งตั้งนางประภาศรี บุญวิเศษ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นางสาวยุพเรศ วงศ์บุญมี นางขวัญวงศ์ พิกุลทอง และ นายธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง ในส่วนกระทรวงวัฒนธรรม แต่งตั้ง นายขจร มุกมีค่า รองอธิบดีกรมศิลปากร ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง, นางสาวดารุณี ธรรมโพธิ์ดล รองผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง, นางสาวศุภร รัตนพงศ์ รองอธิบดีกรมศิลปากร ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง

+++ความคืบหน้าการร่างกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญ นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า กรธ.ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อทำความเห็นส่งกลับมายัง กรธ.อีกครั้ง โดยขอให้ส่งความคิดเห็นมายัง กรธ.ก่อนที่ กรธ.จะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันที่ 21 พ.ย.นี้ สำหรับหลักการโดยทั่วไปของร่างกฎหมายฉบับนี้ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นไปตามเดิมทุกประการ เช่น การให้ผู้สมัคร ส.ว.ต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง และต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองมาแล้วไม่น้อย 10 ปี เป็นต้น หากในระหว่างการเลือก ส.ว. ผู้สมัครรายใดกระทำการทุจริตก็จะถูกตัดสิทธิทันทีและส่งเรื่องให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งต่อไป

+++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการร่างระเบียบและประกาศที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองว่า ขณะนี้ กกต.กำลังเร่งยกร่างระเบียบและประกาศต่างๆ ซึ่งเสร็จไปแล้วบางส่วน เชื่อว่า จะสามารถพิจารณาได้แล้วเสร็จทั้งหมด ประมาณปลายเดือนตุลาคม คาดว่าจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปลดล็อกพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ทั้งนี้ การพิจารณาระเบียบและประกาศต่างๆ ของ กกต.ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นทั้งจากเจ้าหน้าที่ กกต.และพรรคการเมืองทั้ง 70 พรรค เพื่อให้ความเห็นกลับมาว่าการออกระเบียบดังกล่าวเหมาะสมหรือมีปัญหาในทางปฏิบัติหรือไม่ ซึ่งหลังจากที่มีการรับฟังความเห็น กกต.ก็ได้นำมาปรับปรุง เชื่อว่าระเบียบที่ออกมาจะสะดวกและเป็นธรรมกับทุกพรรคการเมือง

+++ข่าวลือ สนช.เตรียมคว่ำกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปจากโรดแม็พ พ.ย. 2561

พล.อ.นพดล อินทปัญญา สมาชิกสนช. ยืนยันไม่เป็นเรื่องจริงและไม่มี สนช. คนใดคุยเรื่องนี้ การทำงานของสนช.ในการพิจารณากฎหมายลูกทุกฉบับ เป็นไปตามข้อบังคับ ระเบียบทุกขั้นตอน มีความราบรื่นโดยตลอด และไม่เชื่อ จะมีใคร สามารถบล็อกโหวต สนช. ได้

+++กรณีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เตรียมปรับเพิ่มเพดาน จ่ายสมทบกองทุนประกันสังคมใหม่ โดยผู้ที่มีเงินเดือน 20,000 บาทขึ้นไปต้องจ่ายสมทบ 1,000 บาท ต่อเดือน เริ่มต้นปี 2561 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า  ขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น เป็นเพียงการหารือของหน่วยงานเกี่ยวข้อง และมีการหารือมากว่า 15 ปีแล้ว ดังนั้นต้องมีความเข้าใจให้มากขึ้น เมื่อมีการพูดจะเรียกเก็บเงินเพิ่มทำให้ตกใจไปหมด ยืนยันรัฐบาลชุดนี้ไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน และพร้อมรับฟังเพื่อแก้ทุกปัญหา ส่วนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความจำเป็น ดังนั้นขอให้ทุกคนเข้าใจรัฐบาลด้วย

+++นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการ สปส. ยืนยัน ต้องใช้เวลา และต้องเสนอเข้า ครม.เพื่อพิจารณา โดยในประเด็นดังกล่าวได้ทำประชาพิจารณ์ 4 ภาคทั่วประเทศ มีคนเข้าร่วม 1,700 คน และเปิดรับฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นมากกว่า 9,000 คน และกว่าร้อยละ 80 เห็นด้วยในการปรับเพิ่มเพดานจ่ายสมทบกองทุนประกันสังคมและยืนยัน สปส. ดำเนินการตามระบบหมด มีการจัดตั้งคนเพื่อทำประชาพิจารณ์

+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ ปิดที่ 52.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ ปิดที่ 58.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โอเปกและชาติผู้ผลิตน้ำมันอื่นๆ ซึ่งรวมถึงรัสเซีย เห็นพ้องตัดลดกำลังผลิตลงราว 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา ข้อตกลงนี้ มีกำหนดหมดอายุในเดือนมีนาคม 2018 แต่ประเทศต่างๆกำลังพิจารณาขยายเส้นตายออกไป

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก รายงานผลประกอบการและประมาณการผลประกอบการแข็งแกร่งเกินคาดหมายของบริษัทต่างๆ ในนั้นรวมถึง 3 เอ็ม, แคทเทอร์พิลลาร์ และ เจเนอรัล มอเตอร์  ทำให้เกิดมุมมองทางบวกเกี่ยวกับความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 167.80 จุด ปิดที่ 23,441.76 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.15 จุด ปิดที่ 2,569.13 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 11.60 จุด ปิดที่ 6,598.43 จุด

+++ราคาทองคำ ปิดต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันอังคาร(24ต.ค.) หลังความเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งของตลาดทุน ผลักนักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,278.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แฟ้มภาพ