สิงคโปร์สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง39ลำจากสหรัฐ ตอกย้ำ ความเป็นหุ้นส่วนที่แน่นแฟ้น

เว็บไซต์ข่าวแชนเนลนิวส์เอเชียของสิงคโปร์รายงานว่าประธานาธิบดีลี เซียนลุงของสิงคโปร์และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯร่วมผลักดันสัมพันธ์สหรัฐฯ-สิงคโปร์ให้แน่นแฟ่นยิ่งขึ้นด้วยการร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามในข้อตกลงสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งของสหรัฐฯจำนวน 39 ลำของสิงคโปร์แอร์ไลน์ มูลค่าเกือบ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยนายลี กล่าวถึงข้อตกลงนี้ว่าจะเกิดผลดีต่อทั้งสองฝ่ายคือจะช่วยทำให้เครื่องบินโดยสารของสิงคโปร์มีความทันสมัยมากขึ้นและสนับสนุนให้เกิดการจ้างงานในสหรัฐฯ

การแถลงข่าวร่วมกับนายทรัมป์หลังการประชุมในห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ นายลีกล่าวถึงสัมพันธ์สหรัฐฯ-สิงคโปร์ว่า เป็นสัมพันธ์ทั้งในเชิงลึกและกว้าง คือครอบคลุมความร่วมมือทั้งในด้านเศรษฐกิจ กลาโหมและความมั่นคง ที่สำคัญคือสิงคโปร์เป็นประเทศเดียวในเอเชียที่ให้การสนับสนุนทั้งในด้านเครื่องบินรบและนักบินไปร่วมกับสหรัฐฯและพันธมิตรในการปราบปรามกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรียตั้งแต่เริ่มแรกและอย่างต่อเนื่อง สำหรับสัมพันธ์ด้านกลาโหม นับตั้งแต่ปี 2533 สิงคโปร์อนุญาตให้กองทัพอากาศสหรัฐฯ เครื่องบินและกองเรือของกองทัพเรือสหรัฐฯแวะเวียนไปลงจอดหรือเข้าเทียบท่าในสิงคโปร์มาโดยตลอด ขณะเดียวกันสหรัฐฯได้จัดโครงการฝึกอบรมให้กับทหารสิงคโปร์กว่า 1,000 คนต่อปี

ด้านนายทรัมป์ขอบคุณรัฐบาลสิงคโปร์ที่ส่งเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ชายฝั่งทางภาคตะวันออกของสหรัฐฯหลังถูกพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์พัดถล่มเมื่อปลายเดือนสิงหาคมและขอบคุณรัฐบาลสิงคโปร์ที่ให้การช่วยเหลือทันทีหลังเกิดเหตุเรือรบยูเอสเอส จอห์น แม็คเคนของสหรัฐฯชนกับเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งที่บริเวณนอกชายฝั่งของสิงคโปร์เมื่อเร็วๆนี้ แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นและนับว่าจะยิ่งแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเรื่อยๆ สำหรับประเด็นเรื่องเกาหลีเหนือ ผู้นำทั้งสองได้ร่วมกันประณามเกาหลีเหนือกรณีการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เมื่อไม่นานมานี้ และทดสอบขีปนาวุธมาหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา แต่ยอมรับว่าไม่มีวิธีการแก้ไขปัญหานี้อย่างง่ายดาย ผู้นำทั้งสองเห็นตรงกันว่าการกดดันเป็นสิ่งจำเป็น แต่การเจรจาก็สำคัญไม่ด้อยไปกว่ากัน สหรัฐฯจะทำงานร่วมกับประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศจีน เพื่อหาทางคลี่คลายปัญหานี้ต่อไป โดยนายทรัมป์จะเยือนประเทศจีนในเดือนพฤศจิกายนนี้ นับเป็นการเยือนเอเชียครั้งแรกของผู้นำสหรัฐ