กรมการขนส่งทางบก เข้มงวดรถโดยสารสาธารณะย่านราชประสงค์ ยังพบแท็กซี่ทำผิด

การตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะที่กระทำผิดกฎหมายในพื้นที่โครงการราชประสงค์โมเดล ที่ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ห้างสรรพสินค้าแพคตินั่ม ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในช่วงเย็นเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์

นายสิรภพ มิ่งชื่น  เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญการ กรมการขนส่งทางบก ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจการเปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนเลิกงาน รวมถึงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเลือกสินค้าสินค้ากันจำนวนมาก ทำให้ถนนหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์มีปริมาณรถจำนวนมาก จึงค่อนข้างยาก หากเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกจะเรียกตรวจรถโดยสารสาธารณะทุกคันทุกชนิด ดังนั้นการทำงานของเจ้าหน้าที่จะเน้นเรื่องการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเป็นหลัก แต่ขณะเดียวกันก็ยังจะตรวจความเรียบร้อยรถโดยสารสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ จะตรวจการแต่งกาย การพกใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ การปฏิเสธผู้โดยสารการกดมิเตอร์โดยไม่คิดราคาเหมารวมการชำระภาษี การตรวจมาตรมิเตอร์ การติดตั้งเข็มขัดนิรภัย และตรวจว่าอุปกรณ์ส่วนควบพร้อมใช้งานหรือไม่เช่น ยางรถ ฟิล์มกระจก กระจกมองข้าง กระจกมองหลัง , มีการนำรถที่มีอายุการใช้งานมาขับให้บริการผู้โดยสารหรือไม่หากเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกพบเห็นก็จะดำเนินการถอดป้ายทะเบียนและยึดทันที เพื่อให้เจ้าของรถนำไปเปลี่ยนประเภทเป็นรถส่วนบุคคล

จากการลงพื้นที่ขณะนี้พบรถแท็กซี่กระทำผิด2ราย คือ ไม่ชำระภาษี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับและออกใบคำสั่งผู้ตรวจการแล้ว 

นอกจากการตรวจรถแท็กซี่แล้วยังจะตรวจรถสามล้อรับจ้าง รถตู้โดยสาร รถจักรยานยนต์รับจ้างและโดยสารประจำทางหรือ รถเมล์ ที่ผ่านมาบริเวณนี้ โดยหลักๆแล้วก็จะตรวจคล้ายๆกับรถแท็กซี่ แต่รถตู้จะเน้นเรื่องการปรับเบาะที่นั่งลงเหลือ13ที่นั่ง การเรียกเก็บค่าโดยสาร ส่วนรถจักรยานยนต์รับจ้างดูว่ามีการสวมเสื้อสีส้มที่ระบุข้อมูลเบื้องต้นของผู้ขับขี่ เช่น ชื่อ-นามสกุล ส่วนรถประจำทางเน้นดูการชำระภาษีและการขออนุญาตติดสติกเกอร์โฆษณาผลิตภัณฑ์ ซึ่งการโฆษณาบนตัวรถเมล์จะต้องได้รับการอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกก่อน หากฝ่าฝืน ก็จะดำเนินการลงโทษตามกฎหมายทันที

หากประชาชนพบเห็นรถโดยสารสาธารณะไม่ว่าประเภทใดก็ตามที่กระทำผิด สามารถร้องเรียนบอกเล่าพฤติการณ์มาได้ที่เบอร์ 1584 กรมการขนส่งทางบก จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำหนังสือเชิญให้ผู้ที่ถูกกล่าวหามาสอบถามข้อเท็จจริงและเปิดโอกาสให้ชี้แจง เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย หากผู้ที่ถูกกล่าวหากระทำผิดจริง ก็จะเปรียบเทียบปรับทันทีพร้อมเข้ารับการอบรมอีก 3 ชั่วโมงทั้งหมดนี้ก็เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารและประชาชนที่ใช้ถนนร่วมกัน