ห่วงใช้เทคโนโลยีทดแทนแรงงานมากขึ้น/จีดีพีมีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์

วันนี้ องค์การแรงงานแห่งประเทศไทย (อรท.) ร่วมกับ เครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) สภาองค์การลูกจ้าง สหพันธ์แรงงาน และสหภาพแรงงาน เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งเสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่..)พ.ศ...(ที่ผ่านมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2560) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อเป็นของขวัญกำลังใจให้กับผู้ใช้แรงงาน และให้มีผลบังคับใช้ในปี 2560

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทิศทางแรงงานในอนาคตน่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากภาคเอกชนมีการนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติมาปรับใช้ในภาคธุรกิจเร็วกว่าที่คาด ไม่ใช่เฉพาะภาคอุตสาหกรรมการผลิตเท่านั้น ยังรวมถึงภาคบริการด้วย ส่งผลต่อการจ้างแรงงานใหม่ และการเลิกจ้างงาน จึงเสนอว่า กระทรวงอุตสาหกรรมควรหารือผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ว่ามีความต้องการแรงงานอย่างไร และจะปรับตัวรองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างไร เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการผลิตแรงงานให้ตรงกับความต้องการภาคอุตสาหกรรม ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ต้องพัฒนาเกษตรกรไปสู่สมาร์ทฟาร์มเมอร์

โดยกลุ่มแรงงานที่น่าเป็นห่วง คือ แรงงานที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป มีโอกาสถูกเลิกจ้างงานมากที่สุด และหากถูกเลิกจ้าง ก็หางานใหม่ได้ยาก เพราะเป็นกลุ่มที่มีเงินเดือนค่อนข้างสูง แต่ประสิทธิภาพการทำงานอาจยังไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับการจ้างแรงงานใหม่ที่ปรับตัวได้ทันเทคโนโลยีสำหรับสถานการณ์การจ้างงานในเดือนกรกฎาคมมีจำนวนการว่างงานประมาณ 476,000 คน คิดเป็นร้อยละ 1.22 ของจำนวนแรงงานทั้งหมด

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจ และเศรษฐกิจฐานราก ของธนาคารออมสิน ปรับการคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) หรือเศรษฐกิจไทยปีนี้ มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 3.5 เพิ่มเป็นร้อยละ 3.6 นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า เป็นผลจากการขยายตัวภาคการส่งออก ภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตที่ดีต่อเนื่อง และโครงการสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้มีรายได้น้อยและโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวประชารัฐ จะส่งผลให้มีการใช้จ่ายในช่วงท้ายปี แต่ปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้ก็คือ อัตราเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับต่ำเป็นเวลานาน และอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น

นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เตรียมจัดตั้งศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อนาคต หรืออินดัสทรี ทรานฟอร์เมชั่น เซ็นเตอร์ (ไอทีซี) ตั้งอยู่ภายในศูนย์ภาคของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมรวม 11 แห่ง ซึ่งจะเป็นการรวบรวมหน่วยงานที่มีความชำนาญด้านการออกแบบและวิศวกรรมจากสถาบันเครือข่าย ผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ มาช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0

ส่วนความคืบหน้าการอนุมัติสินเชื่อจากกองทุนเอสเอ็มอีฯ 20,000 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีทั่วประเทศขณะนี้กองทุนเอสเอ็มอีฯ มีการอนุมัติเงินให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแล้วจำนวน 4,000 ล้านบาท ตั้งเป้าว่าภายในสิ้นเดือน นี้จะถึง 10,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีคำขอเข้ามาเกือบเต็มวงเงินแล้ว

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ณ สิ้นเดือนกันยายนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.59 เทียบจากสิ้นปีบัญชี2559 มีเอ็นพีแอลอยู่ที่ 48,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.9 ของสินเชื่อรวม

ใกล้เทศกาลกินเจ 20-28 ตุลาคมที่จะถึงนี้ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมมีแผนควบคุมราคาสินค้าผัก ผลไม้ และวัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้สำหรับทำอาหารเจ เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคา โดยจะส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนหันมาบริโภคผักอินทรีย์ให้มากขึ้น เพราะยังช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกมีรายได้สูงขึ้น

ส่วนราคาเนื้อสุกร ที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอม ทำให้ความต้องการใช้เนื้อสุกรไปประกอบอาหารของโรงเรียนต่างๆ ลดลง และยังใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจ ทำให้ความต้องการลดลงไปด้วย ไม่ได้มีผลมาจากข่าวที่ว่าไทยจะนำเข้าเนื้อสุกรและเครื่องในที่มีสารเร่งเนื้อแดงจากสหรัฐ เพราะจนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้อนุญาตให้มีการนำเข้า

....