มีชัย ไม่กดดันร่างกฎหมายลูก/จ.เชียงใหม่ ขยายผลสอบขบวนการสวมบัตรปชช./ผตห.คนที่7 ปล้นเงินเยนมอบตัว

+++กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุ ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2561 จะมีการเลือกตั้ง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า นายกฯ นับตามกรอบเวลาในรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้มีการพูดคุยกันแล้ว และกรธ.ก็ยืนยันตั้งแต่วันแรกแล้วว่าร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เสร็จทันตามกรอบเวลา เพราะหากไม่เสร็จ กรธ.จะต้องพ้นสภาพกันไปหมด ดังนั้นไม่รู้สึกกังวล หรือถือเป็นการกดดัน  กรอบเวลาดังกล่าวรวมเวลาปรับแก้ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)แล้วด้วย แต่ที่เรากังวลว่าจะเกิดนั้นเกิดนี่ขึ้น มันก็ได้ทุกเรื่อง ที่กลัวว่ากฎหมายจะโดนคว่ำ ก็เหมือนกับกลัวว่าจะเดินทางไปแต่งงาน กลัวรถคว่ำ

+++ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กังวลว่าระยะเวลา 150 วัน จะจัดการเลือกตั้งไม่ทัน หากนับรวมวันประกาศผลการเลือกตั้งด้วย  นายมีชัย กล่าวว่า หาก กกต.นับรวมถึงวันประกาศผลการเลือกตั้ง ก็แปลว่าทันทีที่กฎหมายมีผลบังคับใช้  กกต.จะต้องเริ่มทำงานทันที และจะต้องเลือกส.ว.ให้เสร็จก่อนเลือกตั้งส.ส. 15 วัน จึงเป็นที่มาที่กรธ.ต้องทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.ก่อน  และเมื่อทำกฎหมายส.ว.เสร็จ ก็ทำกฎหมายลูก ส.ส.ได้ง่าย 

+++พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึง กรณี นายกรัฐมนตรี เตรียมปลดล็อกพรรคการเมืองหลังเดือนตุลาคมนี้ว่า สำหรับการปลดล็อกจะมีกระบวนการและขั้นตอน เมื่อกฎหมายพรรคการเมืองผ่านแล้ว จะมี 2 กลุ่มที่เกี่ยวข้อง คือกลุ่มพรรคการเมืองที่จดทะเบียนแล้วจะมีกรอบเวลาในการดำเนินการ กับพรรคการเมืองที่จะจดทะเบียนใหม่ ก็มีกรอบเวลาในการดำเนินการเช่นกัน ซึ่งหลังพระราชพิธีสำคัญ จะมีการพูดคุยกันว่าจะปลดล็อกอย่างไร

+++พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น.ยืนยันว่า จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนวินัย พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์  รอง ผบก.น.5 ช่วยราชการ ศปก.น.5 ทันที หลังได้รับเอกสารจากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มีมติเอกฉันท์ชี้มูลว่า พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ กระทำผิดวินัยร้ายแรง กรณีพานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหลบหนี  กระบวนการในการพิจารณาจะต้องเสร็จภายใน 60 วัน ตามกรอบเวลา ยืนยันว่า กระบวนการสอบวินัยจะไม่ถูกแทรกแซง ยึดพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงเป็นหลัก

+++การหาพยานหลักฐานเพิ่มในคดีทุจริตเงินทอนวัด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินของนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานนท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)กับพวก ซึ่งได้ร่วมกันกระทำการทุจริตเงินงบประมาณอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์และการพัฒนาวัดตั้งแต่ปี พ.ศ.2555-2559 รวมทั้งสิ้น 33 รายการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 71,939,017.91 บาท พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการ ปปง. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง.กล่าวว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ร่วมกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ นำหมายศาลจังหวัดตลิ่งชันตรวจค้นบ้านเลขที่ 108/1 หมู่บ้านแกรนด์บางกอก บลูเลอวาร์ด ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน ราคา 49 ล้านบาท ซึ่งเป็นบ้านบุตรสาวของนางพัทธานันท์ เบญจวัฒนานนท์ ภรรยาคนปัจจุบันของนายนพรัตน์ เพื่อยึดและอายัดทรัพย์สิน เพื่อตรวจสอบขยายผลต่อ

+++การตรวจสอบพระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารามหลวง ต.สุเทพ และเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ที่ถูกกล่าวหาสวมบัตรประชาชน ด.ช.ดวงดี เวียงดินคำ ชาวบ้านหนองดินดำ ต.บ้านแก้ง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2538 นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประชุมกับนายอุบลพันธ์ ขันผนึก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) เชียงใหม่ ระบุว่า อำเภอแม่อายได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานไปยังกระทรวงมหาดไทย ต้องตรวจสอบเชิงลึก ต้องหาจุดเริ่มต้นการสวมบัตรประชาชนก่อนว่าเกิดขึ้นที่ไหน อย่างไร เพื่อเชื่อมโยงพยานหลักฐานประกอบรายงานดังกล่าว ก่อนนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีเพื่อถอนชื่อในบัตรประชาชนที่สวมชื่อแทนผู้ตายต่อไป ได้แจ้งให้เจ้าอาวาสมาแสดงตน แต่เจ้าอาวาสไม่ได้อยู่วัด ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นปาราชิก เพราะยังไม่พบการกระทำผิดพระธรรมวินัย แต่หากกระทำผิดกฎหมายคดีอาญา หรือ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ อาจมีโทษถึงขั้นจำคุก ก็ต้องสึกออกไป พร้อมถูกถอดถอนสมณศักดิ์

+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ ปิดที่ 51.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ ปิดที่ 56.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 42.21 จุด  ปิดที่ 22,872.89 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.60 จุด ปิดที่ 2,555.24 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 16.30 จุด (ปิดที่ 6,603.55 จุด นักวิเคราะห์ ลดความคาดหมายต่อรายงานผลประกอบการช่วงไตรมาส 3 ของบริษัทต่างๆในไม่กี่สัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากสหรัฐฯถูกเฮอร์ริเคนซัดถล่มหลายลูก

+++ส่วนราคาทองคำ ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน หลังรายงานการประชุมเฟด Minutes ประจำเดือนกันยายน เปิดเผยให้เห็นว่ามีคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินบางส่วน ตั้งคำถามเกี่ยวกับความจำเป็นของการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ขยับลง 4.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,288.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++คดีอาชญากรรม กลุ่มคนร้ายบุกปล้นทรัพย์ชิงสกุลเงินญี่ปุ่น 196 ล้านเยน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 60 ล้านบาท เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถชั้น 5 คอนโดรัชดา พาวิเลี่ยน ซอยรัชดา 30 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 2 ตุลาคม ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อคืนที่วันที่ 4 กันยายน ได้พบรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์สีส้ม ทะเบียนป้ายแดง ส5179 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของผู้เสียหาย ที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี ถูกจอดทิ้งไว้ที่ถนนเลียบ รฟม.ขาเข้า ใกล้กับแยกผังเมือง สามารถจับกุมได้แล้ว 5 คน มอบตัว 1 คน

+++ล่าสุดเมื่อวานนี้ นายนัฐพงศ์ หรือต้น ธัญญะตุ่น อายุ 33 ปี ทำหน้าที่วางแผนและดูที่เกิดเหตุ และเป็น 1 ใน 7 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในข้อหาร่วมกันปล้น เดินทางมาที่สน.พหลโยธิน พร้อมทนายความ เพื่อมอบตัวกับ พ.ต.อ.ยรรยง สันติปรีชาวัฒน์ ผกก.สน.พหลโยธิน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนาย นายนัฐพงศ์ เข้าสอบปากทันที

แฟ้มภาพ