พายุพัดกระหน่ำเวียดนามตาย15หาย8/ผู้นำสเปน ขีดเส้น5วันปมเอกราชกาตาลุญญา/อียู ทบทวนความร่วมมือกับเมียนมาประท้วงวิกฤตโรฮิงญา

+++สถานการณ์ไฟป่าที่สหรัฐฯ ที่ลุกลามทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานมีคนเสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 21 ศพ บ้านเรือนจำนวนมากถูกไฟไหม้ พื้นที่ป่าถูกเผาเสียหายแล้วกว่า 1 แสน 22,000 เอเคอร์ ทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายพันคน ร่วมกันดับเพลิง ขณะที่ชาวบ้านกว่า 2 หมื่นคน ได้อพยพออกจากจุดเสี่ยงอันตราย เจ้าหน้าที่ แนะนำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงถูกไฟไหม้ ให้จัดเก็บเอกสารสำคัญและยารักษาโรคเตรียมใส่กระเป๋าไว้ หากจำเป็นต้องอพยพจะได้หนีไฟป่าได้อย่างรวดเร็ว

+++พื้นที่ที่เสียหายหนักที่สุดคือ เขตเทศมณฑลโซโนมา,นาปาและเทศมณฑลเมนโดซินา ส่งผลให้ไร่องุ่นสำหรับผลิตไวน์ของรัฐเหลือแต่เถ้าถ่านและกลุ่มควันลอยขึ้นเหนือท้องฟ้า ก่อนหน้านี้ไฟป่าได้ลุกลามอย่างรวดเร็วเมื่อวันอาทิตย์ เนื่องจากปัจจัยหลักๆคือลมแรงกว่า 50 ไมล์ต่อชม.และสภาพอากาศแห้ง

+++เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศสหรัฐฯคาดว่าคงจะไม่มีฝนตกในสัปดาห์นี้และยังมีลมแรงระหว่าง 35-40 ไมล์ต่อชม.สภาพอากาศเช่นนี้จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของทีมดับเพลิงพอสมควร

+++ด้านทำเนียบขาวระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในประกาศให้พื้นที่รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่ เพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือทางการเงินฉุกเฉินจากรัฐบาลกลาง

+++ส่วนที่เวียดนาม เกิดน้ำท่วมจากพายุดีเปรสชั่นทางภาคกลางและภาคเหนือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ศพ และสูญหาย 8 คน พายุพัดกระหน่ำภาคกลางเวียดนาม ทำให้ฝนตกหนักในภูมิภาค และในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ เวียดนามอยู่ริมฝั่งทะเลจีนใต้ เผชิญกับพายุและน้ำท่วมเป็นประจำ และมีประชาชนเสียชีวิตหลายร้อยคนในแต่ละปี

+++นายกรัฐมนตรีมารีอาโน ราฮอย ของสเปน เรียกร้องให้นายคาร์เลส ปุยเดอมองต์ ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา แสดงความชัดเจนว่าจะประกาศเอกราชจากสเปนหรือไม่ ภายหลังจากมีรายงานสับสนเรื่องการประกาศเอกราชมาก่อนนี้ นายกฯสเปน ประกาศกร้าวว่าต้องการความชัดเจนจากผู้นำแคว้นกาตาลุญญา เพื่อที่เขาจะได้ตัดสินใจดำเนินการในขั้นต่อไป หลังจากนายราฮอย เคยขู่ว่าเตรียมจะบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 155 ในรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้รัฐสภาเข้าแทรกแซงการบริหารของแคว้นปกครองตนเอง ถอดถอนคณะรัฐมนตรีท้องถิ่น และยับยั้งการประกาศเอกราช นายราฮอย ออกแถลงการณ์ล่าสุดภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉิน หลังจากที่ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา แจ้งในการประชุมสภาท้องถิ่นว่าขอระงับการประกาศเอกราชไว้เพื่อเจรจากับรัฐบาลกลางก่อน แต่มีรายงานว่าหลังจากการปราศรัยในสภาแล้ว ผู้นำแคว้นกาตาลุญญาและกลุ่มพันธมิตรได้ลงนามประกาศเอกราชนอกที่ประชุมสภา

+++ผู้นำสเปน ขอให้ผู้นำแคว้นกาตาลุญญา ยืนยันว่าเขาได้ประกาศเอกราชแล้วจริงหรือไม่ ผู้นำสเปนได้ตำหนิว่าจงใจสร้างความสับสนให้กับสาธารณชน ด้วยการขีดเส้น 5 วันต้องมีความชัดเจน

+++กลุ่มเครือข่ายสมาชิก 28 ประเทศในยุโรป เตือนว่า อาจพิจารณาคว่ำบาตรหากวิฤตไม่ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น กรณีที่ชาวโรฮิงญากว่าครึ่งล้านคนหลบหนีการกวาดล้างของกองทัพเมียนมา ข้ามแดนเข้าสู่บังกลาเทศตั้งแต่เดือน ส.ค.  และสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่าสถานการณ์เทียบเท่ากับการล้างเผ่าพันธุ์  ข้อตกลงที่อนุมัติโดยเอกอัครราชทูต 28 ชาติอียู และกำหนดเซ็นลงนามในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียูในวันจันทร์ กล่าวว่า การอพยพหลบหนีอย่างรวดเร็วของคนจำนวนมาก บ่งชี้ชัดเจนถึงการกระทำโดยจงใจเพื่อขับไล่ชนกลุ่มน้อย และ จากการใช้กำลังโดยไม่สมสัดส่วนของหน่วยความมั่นคงเมียนมา อียูและบรรดารัฐสมาชิกจะระงับการเชิญผู้บัญชาการทหารสูงสุดและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพเมียนมา และทบทวนความร่วมมือทางด้านกลาโหมทั้งหมด พร้อมกับเรียกร้องต่อทุกฝ่าย ให้ยุติความรุนแรงในทันที

+++ปัจจุบันอียู ห้ามส่งออกอาวุธและอุปกรณ์ ที่สามารถนำไปใช้เพื่อการกดขี่ภายในประเทศ แต่อาจพิจารณามาตรการเพิ่มเติม หากสถานการณ์วิกฤตไม่ดีขึ้น

+++การพิจารณาคดีลอบสังหารนายคิม จอง-นัม พี่ชายต่างมารดาของนายคิม ของ อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่ศาลในเมืองชาห์อลัม ชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ ของมาเลเซีย ตำรวจมาเลเซีย เปิดเผยพยานวัตถุต่อศาล ซึ่งเป็นคลิปวิดีโอบันทึกจากกล้องวงจรปิด แสดงให้เห็นนายคิม เดินเข้าไปภายในห้องโถงผู้โดยสารขาออก ของท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ 2 ส่วนของเที่ยวบินราคาประหยัด เมื่อเช้าวันที่ 13 ก.พ. และเดินตรงไปยังพื้นที่ตรวจเช็กเอกสารและสัมภาระ และมีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งถูกระบุในศาลว่าชื่อ น.ส.ดวน ธิ ฮวง ผู้ต้องสงสัยชาวเวียดนาม เดินรี่เข้าหาและใช้มือทั้งสองข้างป้ายที่ใบหน้าของคิมจากด้านหลัง ก่อนจะรีบหนีไป

+++ผู้ต้องสงสัยรายที่ 2 น.ส.สิตี ไอซยาห์ ชาวเวียดนาม ไม่ปรากฎในภาพขณะทำร้ายนายคิม แต่นายวาน อาซิรูล นิซัม วาน อาซิส เจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้การเป็นพยานต่อศาลว่า น.ส.สิตีคือบุคคลที่เห็นในคลิปขณะวิ่งหนีไปอีกทาง

+++ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นนักเคมีของรัฐบาลมาเลเซีย เปิดเผยว่า จากการตรวจพบร่องรอยสารวีเอ็กซ์ ในกรรไกรตัดเล็บของน.ส.ฮวง และในเสื้อผ้าของหญิงสาวทั้งสองคน และสารวีเอ็กซ์ที่ตรวจพบบนใบหน้าของนายคิม มีปริมาณมากกว่าที่สามารถทำให้เสียชีวิตได้ 1.9 เท่า

+++สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากประเทศสิงคโปร์ ว่า บริษัทสื่อ สิงคโปร์ เพรส โอลดิ้ง (เอสพีเอช) บริษัทแม่ของหนังสือพิมพ์ สเตรท ไทม์ส ได้รับผลกระทบจากการตีพิมพ์ของสื่อออนไลน์ รายได้จากโฆษณาและยอดจำหน่ายหนังสือพิมพ์ลดลง การปรับลดตำแหน่งงาน เป็นส่วนหนึ่งของแผนปลดพนักงาน 400 คน ที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ และประมาณครึ่งหนึ่งได้ดำเนินการแล้ว แต่แผนเดิมของเอสพีเอชที่จะปลดส่วนที่เหลือภายในสิ้นปี พ.ศ. 2561 ตอนนี้ทั้งหมดจะถูกปลดภายในสิ้นปีนี้ นายอึ้ง ยัต ชุน หัวหน้าคณะผู้บริหารเอสพีเอช กล่าวว่า การตัดลดพนักงานลงอย่างมากเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อที่เราจะได้มีธุรกิจสื่อที่สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมสื่อในปัจจุบันได้ดีกว่า บริษัทยังไม่มีแผนที่จะปิดหนังสือพิมพ์ฉบับใดๆ ในเครือ 

CR:CNN