คมนาคมตอบรับนโยบายรักษามาตรการความปลอดภัยการบินพลเรือนต่อเนื่อง

กรณีองค์กรการบินระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ ปลดธงแดงประเทศไทยออกจากประเทศที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยการบินพลเรือน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายอาคม กล่าวว่า การติดธงแดง เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าไทยยังไม่มีการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินพลเรือนอย่างเพียงพอภายใต้มาตรฐานของไอเคโอ ทางกระทรวงคมนาคม และ กพท.จึงได้ร่วมกันแก้ไขข้อบกพร่อง 33 ข้อ และทบทวนการตรวจประเมินการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ทั้งหมด 28 สายการบินที่ทำการบินระหว่างประเทศ แก้ไขกฎหมายการเดินอากาศใหม่ และพัฒนาบุคลากรที่มีความขาดแคลนตามที่ประเทศไทยได้ตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรกับไอเคโอ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จได้ยื่นเรื่องขอตรวจประเมินใหม่และตรวจสอบ กระทั่งไอเคโอได้ประกาศถอดประเทศไทยออกจากรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยการบินพลเรือน หรือ ปลดธงแดงเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2560 

ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมพร้อมคณะ ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานผลตรวจประเมินของไอเคโอแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายในการทำงานเพื่อรักษาคุณภาพให้อยู่ในระดับมาตรฐานต่อไป ทางกระทรวงจึงวางแผนร่วมกับไอเคโอในการปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานของไทยให้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก จะมีการรับบุคลากรที่มีคุณภาพเข้ามาเพิ่มทั้งในส่วนของผู้ตรวจสอบและหน่วยงานอื่น มีการฝึกอบรมบุคลากรซึ่งเป็นสิ่งที่ไอเคโอให้ความสำคัญ อีกทั้งยังได้ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบริษัทการบินที่ให้ความร่วมมือ ซึ่งขณะนี้เหลืออีกเพียง 10 สายการบินที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ โดยรัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ พร้อมทั้งรัฐบาลยินดีที่จะสนับสนุนงานของสำนักงานการบินพลเรือนต่อไป 

สำหรับการแก้ไขปัญหาที่หลายคนมองว่าล่าช้านั้น ประเทศไทยใช้เวลาในการแก้ปัญหา 2 ปี 4 เดือน ซึ่งไม่ถือว่าช้าเพราะไอเคโอเองก็ได้เอ่ยปากว่าไทยสามารถแก้ปัญหาด้วยความรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีประเทศใดที่ใช้เวลาแก้ปัญหาเร็วกว่า 2 ปี 

ด้าน นายจุฬา กล่าวว่า การที่ไอเคโอปลดธงแดงประเทศไทยถือเป็นเรื่องดีที่จะรายงานต่อไปยังเอียซ่าและเอฟเอเอ ซึ่งในส่วนของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสหภาพยุโรป (เอียซ่า)  ไทยไม่ได้ถูกห้าม (แบน) แต่ถูกจับตามองเนื่องจากติดธงแดงไอเคโอจึงต้องไปรายงานผลกับเอียซ่าทุกๆ 6 เดือน ซึ่งในวันที่ 13 - 14 พฤศจิกายนนี้ จะไปรายงานผลการปลดธงแดงและความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหากับที่ประชุมใหญ่ของเอียซ่า ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิกในกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ อียู ทั้งหมด 23 ประเทศ

ซึ่งคาดว่าการไปชี้แจงครั้งนี้จะเป็นการชี้แจงครั้งสุดท้าย 

ส่วนกรณีของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (เอฟเอเอ) ซึ่งสายการบินไทยไม่สามารถบินตรงเข้าสหรัฐอเมริกาได้เนื่องจากติดธงแดงของไอเคโอ ก็จะยื่นเรื่องให้เอฟเอเอนำไปประกอบการประเมิน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 และคาดว่าการบินไทยจะสามารถเปิดเส้นทางบินได้ในช่วงเดือนตุลาคม 2561 ซึ่งเป็นช่วงเข้าฤดูหนาวที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางท่องเที่ยว

นอกจากนี้ กพท. เตรียมชี้แจงสถานะการปลดธงแดงต่อญี่ปุ่นและเกาหลีด้วย เพราะทั้ง 2 ประเทศ ห้ามไทยขยายเส้นทางและเพิ่มเที่ยวบิน ซึ่งหากยอมรับเงื่อนไขการขยายเส้นทางก็จะเป็นโอกาสให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกัน เนื่องจากเป็นเส้นทางนิยมของนักท่องเที่ยว

..

ผสข.ปิยะธิดา  เพชรดี