ยูเอ็น ยืนยันซีเรียใช้แก๊สพิษซารินโจมตีพลเรือนเดือนมี.ค.และเม.ย.

รอยเตอร์ รายงานอ้างแหล่งข่าวในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขององค์การห้ามอาวุธเคมี(โอพีซีดับเบิลยู) หน่วยงานตรวจสอบอาวุธเคมีระหว่างประเทศว่า ผลตรวจสอบสารเคมีบ่งชี้ว่า กองทัพซีเรียใช้แก๊สพิษซารินระหว่างการโจมตีทางอากาศยังพื้นที่ชุมชนแห่งหนึ่งในเมืองลาตาเนห์ทางภาคเหนือของซีเรียเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ขณะนั้นอยู่ในความควบคุมของฝ่ายต่อต้าน มีคนบาดเจ็บ 70 คน มีอาการคลื่นไส้อาเจียน น้ำลายเป็นฟองไหลออกจากปากและกล้ามเนื้อหดตัว ไม่กี่วันก่อนที่กองทัพซีเรียใช้แก๊สพิษชนิดเดียวกันในการโจมตีที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองข่านเชคุน ทางภาคเหนือของซีเรียเมื่อวันที่ 4 เมษายน มีคนเสียชีวิตกว่า 80 ศพ เป็นเหตุให้สหรัฐฯตอบโต้โดยการโจมตีฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งของซีเรีย

ซีเรีย ตกลงจะทำลายอาวุธเคมีในปี 2556 ภายใต้ข้อตกลงที่มีรัสเซียและสหรัฐฯช่วยไกล่เกลี่ย แต่รัฐบาลซีเรีย ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่เคยใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนตลอดสงครามกลางเมืองกว่า 6 ปีที่แล้ว สำหรับคณะทำงานโอพีซีดับเบิลยู รับผิดชอบเพียงบ่งชี้ว่ามีการใช้อาวุธเคมีในการโจมตีในซีเรียจริงหรือไม่ จากนั้นคณะผู้สอบสวนร่วมอีกชุดหนึ่งของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)และโอพีซีดับเบิลยู ซึ่งจัดตั้งโดยคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น จะเป็นผู้พิจารณาในขั้นต่อไปว่าใครบ้างที่จะต้องรับผิดชอบสำหรับการใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนดังกล่าว คณะกรรมการชุดนี้ ระบุว่า กองกำลังรัฐบาลซีเรียเคยใช้แก๊สคลอรีนโจมตีย่านชุมชนในซีเรีย 3 ครั้งระหว่างปี 2557-2558

ขณะเดียวกันกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)เคยใช้แก๊สมัสตาร์ดเช่นกัน คาดว่าคณะกรรมการฯจะจัดทำรายงานชิ้นนี้เสร็จสมบูรณ์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าและจะนำเสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นในเดือนนี้ว่าใครจะต้องรับผิดสำหรับเหตุโจมตีเมืองข่านเชคุนเมื่อเดือนเมษายน

ทีมต่างประเทศ

CR:Reuters,en.zamanalwsl.net