นายกฯประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ/ไม่เกิน12ธ.ค.ได้7กกต.ชุดใหม่

ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีในช่วงเช้า และในช่วงบ่ายจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาตินัดแรก ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตาม พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560

ซึ่งก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี นำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดแสดงนิทรรศการหนังสือเดินทางตามรอยพระราชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดแสดงนิทรรศการประชาสัมพันธ์โครงการ National e - Payment และจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ การชำระเงินผ่านระบบ QR Code

โดยเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวบรรยายพิเศษในพิธีปิดการประชุมสัมมนามิติการศึกษาพัฒนาพื้นที่พิเศษ เดินหน้าประเทศไทย มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อจัดทำแผนการศึกษาให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวในตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมีนโยบายว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่ทั้งหมดทิ้งนายกรัฐมนตรีไว้คนเดียวหรือเปล่า เพราะหลายอย่างรุมเร้าอยู่ที่นายกรัฐมนตรีคนเดียว หลายเรื่องเกิดจากความไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง หลายคนยังไม่รู้ว่าประเทศไทยจะเดินหน้าไปอย่างไร ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองก็ไปไม่ได้ ประเทศไทยก็อยู่ไม่ได้สุดท้าย ก็จะกลายเป็นประเทศที่ล้าหลัง วันนี้ระบบการศึกษาไทยยังมีปัญหาที่ยังมุ่งเน้นการเรียนให้จบ การได้รับปริญญา แต่ขณะเดียวกันคนที่จบปริญญาโทหรือปริญญาเอกกลับไปขึ้นทะเบียนคนจน จึงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น มันไม่น่าเป็นไปได้ เด็กหลายคนไม่มีเป้าหมายในชีวิต ตอบไม่ได้ว่าโตขึ้นจะเป็นอะไร

นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า การผลิตกำลังคนต้องรองรับความต้องการของประเทศด้วย ซึ่งจากแนวคิดที่ให้แบ่งการพัฒนาออกเป็น 6 ภาค ก็เพื่อให้ผู้ที่จบการศึกษากลับไปพัฒนาจังหวัดและภาคของตนเอง

เว็ปไซด์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนด ราคาชดใช้แทนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ไม่สามารถส่งคืนตามกฎหมาย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561-2563 ตามที่กฎหมายว่าด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญราชการที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ได้บัญญัติให้ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญราชการต้องส่งคืนชั้นรองเมื่อได้รับพระราชทานชั้นตราสูงขึ้นหรือผู้รับมรดกของผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่วายชนม์ ซึ่งมีหน้าที่ต้องส่งคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ หรือในกรณีที่ทรงเรียกเครื่องราชอิสริยาภรณ์คืนแล้วแต่กรณี แต่ไม่สามารถนำเครื่องราชอิสริยาภรณ์ส่งคืนได้ จะต้องใช้ราคาเครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือเหรียญราชการนั้น โดยมีบัญชีท้ายประกาศราคาชดใช้แทนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ไม่สามารถส่งคืนตามกฎหมาย รวม 65 ลำดับ

นอกจากนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่อง การแต่งตั้งผู้รักษาการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน โดยระบุว่า ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 25 กันยายน 2560 จึงให้นายพรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้มีอาวุโสสูงสุดในตำแหน่งรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน) เป็นผู้รักษาการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินไปพลางก่อนจนกว่าผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินที่ได้รับแต่งตั้งใหม่จะเข้ารับหน้าที่ หรือหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

ส่วนเรื่องการเลือกตั้งซึ่งจะมีขึ้นในปีหน้าตามกรอบระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดไว้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าเรื่องการกำหนดวันเวลาในการเลือกตั้งต้องรอให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ดำเนินการร่างกฎหมายลูกให้เรียบร้อยก่อน รวมถึงการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จากนั้นอีก 150 วันถึงจะมีการกำหนดวันเลือกตั้งได้ จากการประเมิน ยังไม่พบปัจจัยที่จะทำให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป

ในวันที่ 28 กันยายนนี้ จะมีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือ สนช. โดยมีวาระพิจารณารายงานผลการศึกษาของคณะกรรมการจริยธรรม สนช. เรื่องร่างมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ... ที่ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้เสนอ บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระร่วมกันกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ

นางวรารัตน์ อติแพทย์ เลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขา สนช. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ชุดใหม่ เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ส่งหนังสือไปยังคณะกรรมการสรรหากกต.เพื่อให้ส่งตัวแทนทำหน้าที่เป็นกรรมการสรรหากกต.ชุดใหม่แล้ว โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหานัดแรกในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ เพื่อวางกรอบการทำงานคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นกกต.ให้เสร็จภายใน 90 วันหรือวันที่ 12 ธันวาคมนี้ เพื่อส่งรายชื่อให้ สนช. พิจารณาให้ความเห็นชอบภายใน 45 วัน นับจากวันที่บรรจุวาระเข้าสู่ที่ประชุมสนช.ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. กำหนดไว้

......