นายกฯตรวจราชการสุพรรณบุรี-พระนครศรีอยุธยา/สธ.ลงนามประกาศสปสช.

ระหว่างวันที่ 18 – 19 กันยายนนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะจะไปตรวจราชการ จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ โดยออกเดินทางแล้วตั้งแต่เช้านี้ จากสนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม. 2 รอ. เขตพญาไท ไปยังจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี ตำบลสนามชัย อำเภอเมือง

08.00 น. นายกรัฐมนตรีสักการะหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร และพบประชาชน จากนั้นจะไปเยี่ยมชมผลการดำเนินงานของโรงเรียนเกษตรกรชาวนาจังหวัดสุพรรณบุรี สถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ ตำบลรั้วใหญ่ เสร็จแล้วไปตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการทุ่งรับน้ำโครงการเปิดน้ำเข้านา-ปล่อยปลาเข้าทุ่งและพบประชาชนที่ตำบลบ้านแพน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ในเวลา 16.30 น. นายกรัฐมนตรีประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคกลาง ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่นจังหวัดภาคกลาง และผู้แทนเกษตรกร ที่โรงแรมคลาสสิค คามิโอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา

พลอากาศเอก ประจิน  จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดอ่างทองเพื่อติดตามงานตามนโยบายของรัฐบาล ณ โครงการพัฒนาพื้นที่แก้มลิงหนองเจ็ดเส้น ตำบลสายทอง อำเภอป่าโมก จากนั้นจะไปเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ตำบลไผ่ดำ อำเภอวิเศษชัยชาญ และเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนเกษตรปลอดภัย ตำบลมงคลธรรมนิมิต อำเภอสามโก้ ช่วงบ่ายจะไปพบปะสมาชิกเกษตรกรและเยี่ยมชมกิจกรรมลานตากข้าว และศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ณ ศูนย์ข้าวชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบลโคกสะอาด อำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรีเวลา 13.00 น.

พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจราชการและเยี่ยมเยียนประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพและเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส ที่โรงเรียนผู้สูงอายุจังหวัดสิงห์บุรี อำเภอเมือง จากนั้นไปพบประชาชน มอบเงินสงเคราะห์เด็ก พร้อมถุงยังชีพและเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส ณ องค์การบริหารส่วนตำบลท่างาม อำเภออินทร์บุรี  

ส่วนที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ทนายความนำญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุปิดล้อมพื้นที่และสลายการชุมนุมเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และขอให้อัยการสูงสุดแจ้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ไต่สวนคดี 99 ศพ​ ซึ่งมีข้อเท็จจริงทางคดีที่สำคัญและมีพยานหลักฐานใหม่ 

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้ลงนามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเรื่อง หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำหรับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2561 และหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขการรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขหน่วยบริการ ตามที่บอร์ด สปสช.ได้ให้ความเห็นชอบตามที่อนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนนำเสนอ หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2561 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 171,373.67 ล้านบาท

ในส่วนของประเด็นการเมืองที่ต้องตามต่อในวันนี้ มีกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่า หากไม่มีปัญหาก็จะมีการเลือกตั้งในปี 2561 แล้วมีนักการเมืองหลายคนเห็นว่า นายกรัฐมนตรีกำลังเพิ่มเงื่อนไขใหม่

และกรณีที่องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ จัดทำดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์การทุจริตคอรัปชั่น ประจำปี 2559 โดยประเทศไทยได้ 35 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 คะแนน โดยมีอันดับลดลงไปอยู่ที่ 101 จากทั้งหมด 176 ประเทศ

สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รับตรวจสอบการจัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์มูลค่า 350 ล้านบาท เมื่อปี 2552 ซึ่งถูกปลดประจำการไปแล้ว และถูกวิจารณ์ว่าเป็นการจัดซื้อที่ไม่คุ้มค่า

นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ซึ่ง นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า การพิจารณาน่าจะเสร็จในสิ้นเดือนนี้ ส่วนร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ได้ส่งตัวยกร่างไปให้นักกฎหมายของกฤษฎีกาดูรายละเอียดต่างๆหากมีประเด็นใดที่คลุมเครือ ไม่มีความชัดเจน จะนำมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ส่วนร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กำลังอยู่ในการยกร่างรายมาตรา ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับนี้จะเสร็จสิ้นตามกำหนดในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้แน่นอน

....