ขนส่ง ปรับรถโดยสารสาธารณะ 9 ราย ที่ดอนเมือง ทำผิดเพิ่มจำนวนเบาะนั่ง- ปรับแต่งล้อรถ

การลงพื้นที่ตรวจรถโดยสารสาธารณะของเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง  นายสุพรรณ ตันติจรรยา เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน ชุดที่ 11  กล่าวว่า ในวันนี้มีเจ้าหน้าที่ร่วมลงตรวจ 5 นาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว 3 นาย ประจำตามจุดต่างๆ ตรวจตรารถโดยสารสาธารณะที่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะในพื้นที่สนามบินจะเป็นรถแท็กซี่เป็นหลักซึ่งเข้ามาภายในสนามบินเพื่อส่งผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่จะตรวจทั้ง รถที่ไม่ต่อภาษีตามกำหนด ไม่นำรถเข้าตรวจรอบมิเตอร์ รวมทั้งรถที่หมดอายุการใช้งานและต้องเปลี่ยนเป็นประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โดยรถแท็กซี่ที่มีอายุเกิน 9 ปี จะต้องนำรถไปเปลี่ยนประเภทการใช้งาน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารของประชาชน เนื่องจากรถเหล่านี้ผ่านการใช้งานมาหลายปี อาจทำให้เสื่อมสภาพได้

แม้ดูภายนอกรถจะมีสภาพใหม่ก็ตาม โดยเจ้าหน้าที่สามารถ ตรวจสอบอายุการใช้งานได้จากเอกสารประจำตัวที่ระบุวันจดทะเบียนรถ ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่พบรถที่มีอายุการใช้งานเกินกำหนด จะถูกถอดป้ายทะเบียนออกในทันที และต้องชำระค่าปรับ ก่อนไปจดทะเบียนประเภทรถใหม่ ที่จะใช้สำหรับนั่งส่วนบุคคลห้ามนำมาขับรับจ้างอีก นอกจากนี้เรื่องการแต่งกายของพนักงานขับรถก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่เจ้าหน้าที่จะตรวจ โดยจะต้องไม่ใส่เสื้อยืด เสื้อกล้าม เสื้อเเขนสั้น กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ พร้อมตรวจรถรับจ้างไม่ประจำทางที่วิ่งมาส่งผู้โดยสารแบบหมู่คณะ หากพบว่ามีป้ายทะเบียนสีแดง มีจำนวนเบาะที่นั่งเกินกำหนด จะต้องถูกเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก เรียกเพื่อตรวจสอบทันที

ส่วนเรื่องการร้องเรียนของผู้โดยสารที่สนามบินดอนเมือง มักจะไม่พบการร้องเรียน เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่สลับกันแต่ละชุดมาตั้งจุดตรวจอยู่เป็นประจำ และนอกจากในพื้นที่สนามบินดอนเมืองแล้ว ยังลงจุดตรวจอื่นๆ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สวนจตุจักร โดยในบางพื้นที่นอกจากจะตรวจเอกสาร การจดทะเบียนต่างๆ แล้ว ยังมีการวัดค่ามลพิษ หรือวัดค่าควันดำในรถโดยสารสาธารณะด้วย โดยค่าจากเครื่องอ่าน จะต้องไม่เกินร้อยละ 50 หากเกินจะต้องถูกออกใบคำสั่งผู้ตรวจการและเปรียบเทียบปรับต่อไป

จากการลงพื้นที่ในวันนี้ พบผู้กระทำความผิดทั้งสิ้น 9 ราย โดยเป็นรถแท็กซี่สาธารณะ 7 ราย ประกอบด้วย แต่งกายไม่สุภาพ นำรถทะเบียนป้ายแดงมาขับรับส่งผู้โดยสาร ไม่ชำระภาษีตามกำหนด ไม่ตรวจสภาพรถ รถหมดอายุการใช้งาน และอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง โดยพบว่าบริเวณล้อรถมีการปรับแต่ง ซึ่งการปรับแต่งล้อรถนี้ ไม่ว่าจะปรับให้มีขนาดใหญ่หรือเล็ก จะมีผลต่อตัวเลขมิเตอร์ เนื่องจากเลขมิเตอร์จะวัดระยะทางจากวงล้อรถ การที่ล้อรถไม่ได้มาตรฐานย่อมส่งผลต่อตัวเลขมิเตอร์ ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานเช่นกัน โดยเฉพาะล้อที่มีขนาดเล็ก จะมีผลทำให้มิเตอร์มีค่าขึ้นเร็วกว่าปกติ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่อย่างได้ตรวจพบรถโดยสารไม่ประจำทางที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องอีก 2 ราย ประกอบด้วย นำรถป้ายแดงมาให้บริการผู้โดยสาร และมีการเพิ่มจำนวนเบาะที่นั่งเกินกว่าที่กำหนดจาก 34 เบาะที่นั่งเป็น 41 เบาะที่นั่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการออกใบคำสั่งผู้ตรวจการและให้ดำเนินการจ่ายค่าปรับต่อไป

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ