รัสเซียทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่/จีน เตือนภัยระวังไต้ฝุ่นตาลิม/ชาวสิงคโปร์ ตำหนิกระบวนการเลือกตั้งปธน.

+++รัสเซีย ประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ RS-24 Yars ติดหัวรบธรรมดา จากฐานยิงเพิลซีค คอสโมโดรม ทางเหนือของประเทศ พุ่งตรงทำลายเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไป 6,000 กิโลเมตรได้อย่างแม่นยำ กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า จุดประสงค์หลักของการยิงคือเพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของขีปนาวุธ  พิสัยทดสอบในคาบสมุทรคัมชัตกา ทุกเป้าหมายของการทดสอบประสบผลสำเร็จ RS-24 Yars สามารถติดตั้งหัวรบได้ 3 ถึง 6 หัวรบ มีศักยภาพโจมตีเป้าหมายต่างๆด้วยพิสัยทำการสูงสุด 12,000 กิโลเมตร

+++หนังสือพิมพ์รายวันเฮอริเยต รวมทั้งหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นๆของตุรกี รายงานการเปิดเผยของประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน แห่งตุรกีว่า ตุรกีได้ลงนามในข้อตกลงขอซื้อระบบป้องกันขีปนาวุธเอส-400 จากรัสเซีย ถือว่าเป็นการขายอาวุธครั้งสำคัญของรัสเซีย และยังเป็นการทำข้อตกลงซื้อขายขีปนาวุธยิงจากพื้นสู่อากาศครั้งสำคัญของตุรกีกับประเทศนอกกลุ่มนาโต(องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ)ประธานาธิบดีเออร์โดกัน กล่าวว่า มีการลงนามซื้อขายอาวุธจากรัสเซียและจ่ายเงินมัดจำไปแล้วด้วย ซึ่งทั้งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินและตัวเขาต่างก็ยืนยันในเรื่องการซื้อขายอาวุธนี้

+++การซื้ออาวุธจากประเทศนอกกลุ่มนาโตสร้างความหวาดวิตกให้กับประเทศตะวันตก เพราะอาจมีการเปรียบเทียบอาวุธที่พันธมิตรนาโตมีอยู่ โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เคยกล่าวเตือนให้ระวังเรื่องซื้ออาวุธจากประเทศนอกกลุ่มนาโต ขณะที่ประธานาธิบดีเออร์โดกันบอกว่า ตุรกีมีอิสระที่จะไปซื้ออาวุธทางทหาร ขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการใช้อาวุธเพื่อป้องกันประเทศ

+++หลังจากที่  15 ประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี)ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ คว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มเติม รอยเตอร์ รายงานอ้างรัฐบาลนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น และ ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ สองประเทศพันธมิตรหลักของสหรัฐฯในเอเชียว่า ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ยินดีและพร้อมทำตามมติของยูเอ็นเอสซี นับเป็นการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือครั้งที่ 9 นับตั้งแต่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธและนิวเคลียร์เมื่อปี 2549

+++ด้านนางนิกกี้ ฮาร์ลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น ระบุต่อที่ประชุมยูเอ็นเอสซีว่ามาตรการนี้จะทำให้รัฐบาลเกาหลีเหนือสูญเสียรายได้ราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี หลังจากที่ประชุมยูเอ็นเอสซี ลงมติรับรองมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือแล้ว ทั้งรัฐบาลญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ระบุว่า พวกเขาพร้อมจะเดินหน้ามาตรการกดดันเพิ่มเติมอีก ถ้าหากเกาหลีเหนือยังไม่ยอมล้มเลิกโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ

+++หลังพายุดีเปรสชั่นเขตร้อนที่คนในท้องถิ่นเรียกว่ามาริง พัดถล่มเมืองเมาบัน เกาะลูซอน ของฟิลิปปินส์ ด้วยความแรงลม 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดฝนตก น้ำท่วมทั้งในเมืองหลวงและเขตปริมณฑล โรงเรียน สถานที่ราชการและธุรกิจห้างร้านในพื้นที่ประสบภัยปิดทำการในวันนี้และวันพรุ่งนี้ ในบางท้องที่ในแถบชานเมือง ระดับน้ำท่วมสูงถึงหน้าอก เอเอฟพี รายงานอ้างนายรอนนี มาเตีย เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยพลเรือนของฟิลิปปินส์ว่ามีคนเสียชีวิต 4 ศพ สูญหาย 6 คน

+++นับเป็นพายุลูกล่าสุดที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ โดยเฉลี่ยมีพายุพัดถล่มราว 20 ลูกต่อปีในจำนวนผู้เสียชีวิต ก่อนหน้านี้มีคนเสียชีวิตราว 7,350 ศพหลังพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพัดถล่มพื้นที่ภาคกลางของประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 นับเป็นหนึ่งในอุบัติภัยทางธรรมชาติครั้งร้ายแรงและมีคนเสียชีวิตมากที่สุดในฟิลิปปินส์

+++ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของจีน ประกาศเตือนว่า ไต้ฝุ่นตาลิม อาจทวีกำลังแรงขี้นเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น ขณะกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่ไต้หวัน มณฑลเจ้อเจียงและมณฑลฝูเจี้ยนของจีน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาจีนประกาศเตือนภัยระดับสีฟ้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดจากทั้งหมด 4 ระดับ หลังไต้ฝุ่นตาลิม ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุด 119 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวอยู่ห่างจากทางตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวันราว 1,040 กิโลเมตรในช่วงเช้าวันนี้ 

+++มีการคาดการณ์ว่า ไต้ฝุ่นจะขึ้นฝั่งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน ทำให้มีฝนตกหนักและลมพัดแรงตั้งแต่วันพุธถึงวันพฤหัสบดีนี้ จากนั้นพายุจะเคลื่อนตัวต่อไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 25-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและจะพัดขึ้นฝั่งมณฑลเจ้อเจียงและมณฑลฝูเจี้ยนในช่วงเย็นของวันพฤหัสบดีหรือช่วงเช้าวันศุกร์

+++ทางการมณฑลฝูเจี้ยน ประกาศใช้แผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด เมื่อคืนวันจันทร์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับคำสั่งให้ติดตามการเคลื่อนตัวของไต้ฝุ่นตาลิมอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมใช้มาตรการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที

+++เช่นเดียวกับมณฑลเจ้อเจียง รายงานว่า ทางการได้ประกาศใช้แผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินระดับ 4 เช่นกัน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกประกาศเตือนและอพยพได้ทันที หากตรวจพบสิ่งผิดปกติ

+++ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเดินทางไปยังหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียนที่ถูกเฮอริเคนเออร์มาถล่มเมื่อสัปดาห์ก่อน ประธานาธิบดีมาครง เยี่ยมเกาะเซนต์มาร์ตินและเกาะเซนต์บาร์ต ที่เป็นดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส ข้อมูลอย่างเป็นทางการล่าสุดระบุว่า พายุเออร์มา คร่าชีวิตคนบนดินแดนฝรั่งเศสไป 10 ศพ สร้างความเสียหายอย่างหนัก ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวว่าประธานาธิบดีต้องมาเห็นด้วยตาตัวเอง ถึงจะรู้ถึงความน่ากลัวที่เกิดขึ้น

+++ชาวสิงคโปร์ ตำหนิกระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีนี้ที่มีผู้สมัครผ่านคุณสมบัติเพียงคนเดียว เพราะเท่ากับจะไม่มีการเลือกตั้งในวันที่ 23 ก.ย.  นักเขียนและนักวิจารณ์การเมืองคนหนึ่ง กล่าวว่า ชาวสิงคโปร์ทุกคนไม่พอใจที่ค่านิยมหลักของประเทศเรื่องคุณธรรมและความเป็นธรรมในการเลือกตั้งถูกบ่อนทำลายเพื่อตอบสนองเป้าหมายทางการเมือง

+++ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์บางคนโพสต์ว่า ในฐานะที่เป็นพลเมืองของประเทศประชาธิปไตยแห่งนี้ รู้สึกอับอายเสียเหลือเกิน บางคนโพสต์ว่า อย่าเรียกว่าเลือกตั้งหากชาวสิงคโปร์ไม่ได้ลงคะแนน ซึ่งหมายถึงการที่นางฮาลิมาห์ ยาคอบ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรเชื้อสายมาเลย์วัย 63 ปี จะได้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศโดยไม่ต้องมีการเลือกตั้ง เนื่องจากผู้สมัครคนอื่นถูกทางการประกาศว่าไม่ผ่านคุณสมบัติ ประธานาธิบดีสิงคโปร์ มีวาระ 6 ปี ปีนี้มีผู้สมัครชิงตำแหน่งทั้งหมด 5 คน 

+++สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ว่า ชาวเมียนมา หลายร้อยคนมาร่วมงานศพของ อีที หมอดูชื่อดังของเมียนมา ที่เสียชีวิตที่บ้านพักในเมืองย่างกุ้ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย. ขณะมีอายุได้ 58 ปี สำหรับชื่อที่เรียกขานของหมอดูชื่อดังชาวเมียนมาผู้นี้คืออีที เพราะรูปร่างอาจคล้ายกับหนึ่งในตัวละครในภาพยนตร์แฟนตาซีไซไฟเรื่องอีทีเพื่อนรักของผู้กำกับอเมริกัน สตีเว่น สปีลเบิร์ก  โดยเธอทำอาชีพนี้มานาน มีลูกค้ามากมายโดยเฉพาะบุคคลชั้นสูงจากประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงนายพลในคณะรัฐบาลทหารพม่าในอดีต เช่น พล.อ.อาวุโสตาน ฉ่วย ซึ่งมีข่าวลือว่าเป็นลูกค้าประจำของหมอดูอีที และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยด้วย

แฟ้มภาพ