57ปี กฟภ.เดินหน้าธุรกิจ รองรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 7เดือนแรกของปีนี้ กำไร 15,357 ลบ.

วันสถาปนาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ครบรอบ 57 ปี นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการ PEA แถลงนโยบายการบริหารและพัฒนา PEA สู่การเป็น การไฟฟ้าแห่งอนาคต เป็นปีแห่งความปลอดภัยในการทำงาน มุ่งเน้นพัฒนาคนด้วยนวัตกรรม พัฒนางานด้วยเทคโนโลยี โดยระบุว่า ปัจจุบัน PEA มีพื้นที่ให้บริการ 74 จังหวัด สำนักงานให้บริการรวมกว่า 900 แห่งทั่วประเทศ จำนวนสถานีไฟฟ้า 546 แห่ง ระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงสูงประมาณ 306,132 วงจร-กิโลเมตร รองรับลูกค้ากว่า 19 ล้านราย ซึ่งมีความต้องการใช้กำลังไฟฟ้าสูงสุดรวม 21,210.26 เมกะวัตต์ โดยผลประกอบการในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีกำไรสุทธิ 15,357 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะมีกำไรสุทธิรวมตลอดทั้งปี 2560 ประมาณ 24,917 ล้านบาท

ผู้ว่าการ PEA กล่าวว่า PEA มีโครงการและแผนงานที่สำคัญ อาทิ การวิจัยและพัฒนาต้นแบบแพลทฟอร์ม ระบบบริหารและจัดการพลังงานอัจฉริยะ, การเปิดตัวธุรกิจ EV Charging Station ในส่วนภูมิภาค ให้บริการสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นำร่องที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนครราชสีมา รวมทั้งมีแผนสร้างสถานีอัดประจุในเส้นทางหลักสู่เมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 5 เส้นทาง จำนวน 11 แห่ง, โครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ในพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่ง PEA ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ดำเนินโครงการในวงเงินลงทุน 1,069 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 2560-2563

โครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าแบบโครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (Micro-Grid) ที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เงินลงทุน 256 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการปี 2560-2562, โครงการขยายเขตไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่ (คฟม.) ตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย จำนวน 131,629 ครัวเรือน ใช้งบประมาณ 3,687 ล้านบาท โดยขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรรายใหม่แล้ว จำนวน 124,281 ครัวเรือน, การจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้า, โครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 จำนวน 4 พื้นที่ มีจังหวัดเชียงราย นราธิวาส นครพนม กาญจนบุรี ใช้งบประมาณรวม 4,000 ล้านบาท, การพัฒนาพื้นที่ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ประกอบด้วยจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ อย่างสะดวก รวดเร็ว และดำเนินงาน CSR เพื่อเติบโตคู่กับสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม

นายเสริมสกุล ยืนยันว่า ปริมาณไฟฟ้าขณะนี้ยังเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน แต่มีบางพื้นที่ที่พบปัญหากระแสไฟฟ้ามีปริมาณน้อย ต้องใช้ระบบการบริหารจัดการที่ดีและทั่วถึง ส่วนแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าในปีนี้มีปริมาณไม่มากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากปีนี้ไม่ร้อนมาก สำหรับความคืบหน้าการซื้อพลังงานทดแทน จะต้องรอประกาศจากกระทรวงพลังงานอย่างเป็นทางการก่อน

ผสข.ปภาดา พูลสุข