พายุเฮอร์ริเคนถล่มสหรัฐฯและการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันโลก

นายเจฟฟรีย์ ฮัลลีย์ นักวิเคราะห์ตลาดจากบริษัทโอยันดา บริษัทนายหน้าซื้อขายในตลาดล่วงหน้าของสหรัฐฯว่าตลาดน้ำมันดิบโลกยังคงผันผวนในวันนี้ หลังสหรัฐฯปิดแหล่งผลิตน้ำมันดิบเพิ่มอีกหลายแห่ง ขณะเดียวกันราคาน้ำมันดิบเบรนท์ กรุงลอนดอน อังกฤษ อ่อนตัวลงหลังนักลงทุนหันไปทำสัญญาล่วงหน้าซื้อขายทองคำมากขึ้นหลังเกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวานนี้

 โดยราคาน้ำมันดิบตลาดเวสต์เท็กซัสของสหรัฐฯตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าซื้อขายกันที่ 47.42 บาร์เรลต่อดอลลาร์ เมื่อเวลา 04.11 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ หรือ เพิ่มจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ก่อน 13 เซนต์ เทรดเดอร์ระบุว่าการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบดังกล่าวเป็นผลพวงจากการที่บริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐฯปิดแท่นผลิตน้ำมันดิบในช่วงนี้หลังพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์พัดถล่มสหรัฐฯ

ด้านสำนักงานบังคับด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯระบุว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่ตั้งอยู่ในบริเวณอ่าวเม็กซิโกซึ่งผลิตน้ำมันดิบร้อยละ 5.5 หรือ 96,000 บาร์เรลต่อวันยังคงปิดต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้  แต่โรงกลั่นน้ำมันต่างๆเริ่มทำการกลั่นน้ำมันดิบตามปกติแล้ว เช่นเดียวกันบริษัทที่ทำธุรกิจลำเลียงน้ำมันกลั่นผ่านท่อส่งน้ำมัน แต่นายเกร็ก แอบบ็อต ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ประเมินว่า ความเสียหายจากพายุฮาร์วีย์เมื่อสัปดาห์ก่อนอาจจะอยู่ระหว่าง 150,000-180,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากตลาดสหรัฐฯแล้ว นักลงทุนยังจับตามองเรื่องสถานการณ์เกี่ยวกับเกาหลีเหนือ หลังการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เมื่อวานนี้ ส่งผลให้สหรัฐฯขู่จะโจมตีเกาหลีเหนือ มีผลกระทบต่อตลาดน้ำมันดิบเบรนท์กรุงลอนดอนเนื่องจากลงทุนย้ายเงินออกจากตลาดน้ำมันซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงสูงไปยังตลาดซื้อขายทองคำล่วงหน้าแทนเนื่องจากมองว่าปลอดภัยกว่า โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ซื้อขายที่ 52.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลด 21 เซนต์หรือร้อยละ 0.4 จากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว