ปภ.เตือนภัยน้ำท่วม50จังหวัด/ประสานตำรวจสากลตามจับ 'ยิ่งลักษณ์, วรยุทธ์'

ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้หย่อมความกดอากาศต่ำพายุโซนร้อนตาลัส พายุโซนร้อนเซินกา มาจนถึงพายุโซนร้อนปาข่า นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พายุโซนร้อนปาข่าอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณตอนเหนือของประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับ ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ในช่วงวันที่ 28 สิงหาคม-2 กันยายน จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่งในทั่วทุกภาคของประเทศ ปภ.จึงประสาน 50 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยแยกเป็น ภาคเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง ลำพูน แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ โดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำกกและลุ่มแม่น้ำน่าน มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและเริ่มเอ่อล้นตลิ่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี และลพบุรี ภาคตะวันออก 5 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 13 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส

กรณีมีฝนตกหนักถึงหนักมากปริมาณน้ำฝนสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรต่อวัน ให้พิจารณาอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย หรือจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และแผนปฏิบัติการฯ แผนเผชิญเหตุของอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแนวทางการจัดการสาธารณภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด

ที่จังหวัดกระบี่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ขึ้นธงแดงบริเวณอ่าวมาหยาแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาดเนื่องจากคลื่นลมแรง ส่วนบริเวณเกาะไผ่ได้ขึ้นธงเหลือง ให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังในการลงเล่นน้ำ

เมื่อวานนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายและติดตามงานกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากการส่งออกที่ฟื้นตัวดี ทำให้กระทรวงพาณิชย์ปรับเป้าหมายการส่งออกปี 2560 จากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 6 โดยนายสมคิดกล่าวว่าพอใจผลงานของกระทรวงพาณิชย์แต่ก็เชื่อว่าจะมีผลงานที่สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ อย่างไรก็ตามแม้การส่งออกจะมีสัญญาณดี แต่เมื่อเทคโนโลยีมีมากขึ้น การตลาดกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการค้าขายผ่านช่องทางออนไลน์ หรืออี-คอมเมิร์ซ จึงมอบให้กระทรวงพาณิชย์เร่งหาตลาดอี-คอมเมิร์ซ เพื่อขยายตลาดเอสเอ็มอีมีตลาดซื้อขายสินค้ามากขึ้น ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์รายงานว่ากำลังดำเนินโครงการ ดิจิทัลอี-คอมเมิร์ซ คาดว่าเดือนกันยายนนี้จะเปิดตัวได้

นายสมคิดเปิดเผยด้วยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการประชารัฐสวัสดิการเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยจะแจกบัตรสวัสดิการ 1 ใบ เพื่อเติมเงินในบัตรเป็นรายเดือน ให้กับผู้มีรายได้น้อย นำไปจับจ่ายซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าประชารัฐ ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงต้องเร่งทำงานกับกระทรวงการคลังเพื่อหาจุดจำหน่ายสินค้า

ส่วนการที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลบหนีการตัดสินคดี และมีการวิจารณ์ว่า คสช.ปล่อยให้หลบหนี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบต่อไปว่าออกไปนอกประเทศได้อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาก็ยอมรับการติดตามไปทุกที่ทำได้ยาก เพราะก็ต้องให้เกียรติเขา แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นก็ต้องกลับมาดูว่า จะแก้ไขและป้องกันอย่างไร ส่วนจะถอนพาสปอร์ตด้วยหรือไม่ ต้องดูกฎหมายก่อนว่า ทำอะไรได้แค่ไหน ตนอยากให้บ้านเมืองสงบ เกิดความปรองดอง และไม่อยากอารมณ์เสียกับเรื่องเหล่านี้ ยืนยันว่า ไม่ได้ปล่อยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกนอกประเทศ

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร.เมื่อวานนี้มีการประชุมชุดความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามตามจับกุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้อาศัยอยู่ภายในบ้านพักซอยโยธินพัฒนา3 จึงไม่ต้องขอหมายค้น แต่จากการตรวจสอบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ก็ไม่ปรากฎหลักฐานว่า เดินทางออกนอกประเทศผ่านช่องทางปกติ ส่วนจะหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ จากนั้นในการประชุมได้สั่งการให้กองการต่างประเทศ (ตท.) ประสานตำรวจสากล (Interpol) ซึ่งมีสมาชิก 190 ประเทศ หาที่อยู่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในต่างประเทศ รวมถึงสอบสวนแพทย์ประจำตัวว่า มีการเข้าพบรักษาตัวเกี่ยวกับอาการน้ำในหูไม่เท่ากันหรือไม่

โดยในวันนี้ ทนายความของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ จะเตรียมยื่นประกันตัวอีกครั้ง ขณะที่ครอบครัวจะเข้าเยี่ยมที่เรือนจำ

ตำรวจสากลออกหมายแดง เปิดทางติดตามจับกุมนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีฐานขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 ซึ่งพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากองการต่างประเทศ (ตท.) มีการทำงานมาโดยตลอด ตั้งแต่การออกหมายสีน้ำเงิน จนถึงการร้องขอไปยังตำรวจสากล เพื่อออกหมายแดง หรือหมายต้องการตัวของตำรวจสากล และหากประชาชนทราบเบาะแส หรือพบเห็น สามารถแจ้งข้อมูลให้ตำรวจได้ ผ่านทาง ศปก.ตร. โทร. 1599 ได้ตลอด 24 ชม.

...