นายกฯ ยันไม่ได้ซูเอี๋ยปล่อยให้ยิ่งลักษณ์หนี หยุดขยายความคดีที่จบไปแล้ว

จากการที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีไม่ฟังคำพิพากษาศาลกรณีโครงการรับจำนำข้าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่มีการซูเอี๋ยกับใคร ในการปล่อยให้นางสาวยิ่งลักษณ์หนี แต่ยอมรับเรื่องนี้เป็นความบกพร่องของฝ่ายความมั่นคง ซึ่งตัวเอง ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่ระบุว่าต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่เพราะเส้นทางธรรมชาติตามแนวชายแดนทั่วประเทศไทยยาวถึง 5 พันกิโลเมตร ซึ่งทุกช่วงมีเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน จึงมั่นใจว่ามีคนพาหนีเพราะพื้นที่ชายแดนอันตราย มีกับระเบิด จึงเป็นเรื่องยากที่จะหนีไปตามลำพัง

ส่วนการเพิกถอนพาสปอร์ต ของนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ แต่ส่วนตัวเข้าใจว่าขณะนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังไม่มีความผิดเรื่องคดีปล่อยปละละเลยในโครงการรับจำนำข้าว จึงต้องรอฟังคำพิพากษาวันที่ 27 กันยายนก่อน ดังนั้นขณะนี้เป็นเพียงการหลบหนีคดี จึงทำให้ศาลหมายจับเพื่อบังคับให้มาฟังคำตัดสินเท่านั้น

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียืนยันไม่กังวลว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ จะไปเคลื่อนไหวในต่างประเทศ ส่วนจะอยู่ประเทศใด ให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะประสาน แต่ขึ้นอยู่กับประเทศเหล่านั้น ว่าจะให้ความร่วมมือหรือไม่ พร้อมกันนี้ขอสื่อหยุดขยายความให้เกิดความขัดแย้ง และที่ผ่านการตัดสินคดีก็มีทั้ง 2 กลุ่มในเรื่องการสลายการชุมนุม เรื่องที่จบแล้วก็ขอให้จบไปอย่าไปขยายความให้มาโจมตีประเทศ พร้อมระบุว่าแค่นี้ประเทศยังร้อนไม่พออีกหรือ ขณะที่คนที่อยู่ต่างประเทศอยู่อย่างสบาย

พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามทับหลังปราสาทเขาน้อย ในพื้นที่จังหวัดสระแก้วว่ากระทรวงวัฒนธรรมกำลังดำเนินการ โดยต้องรอการพิสูจน์ให้ชัดเจนก่อน ซึ่งประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก ขออย่าขัดแย้งกันอีก

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการลงพื้นที่นายกรัฐมนตรีได้เจียวไข่โหระพาและเยี่ยมชมวัวโครงการโคบาลบูรพา พร้อมตั้งชื่อลูกวัวที่กำลังจะคลอดว่า ชื่อสูงยิ่ง มาจากชื่ออำเภอ โคกสูง และให้มีความเจริญรุ่งเรือง สูงยิ่ง รวยยิ่ง จึงเป็นที่มาของชื่อนี้

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี

CR:รัฐบาลไทย