รองผบ.ตร.สั่งทุกหน่วยตรวจสอบทุกช่องทางที่นางสาวยิ่งลักษณ์อาจใช้หลบหนี

หลังการประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีโครงการรับจำนำข้าว โดยใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลงานฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานที่ประชุม มอบหมายให้ทุกหน่วยงานไปตรวจสอบและให้รายงานผลกลับมาภายในวันที่ 1 กันยายนนี้ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ตำรวจ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตรวจสอบตามช่องทางด่านชายแดน และให้ตำรวจพื้นที่ตรวจสอบร่องรอยหลักฐานช่องทางธรรมชาติที่คาดว่านางสาวยิ่งลักษณ์ใช้หลบหนีออกนอกประเทศ เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไปแถลงต่อศาลฎีกาฯ ว่านางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนีจริงหรือไม่ หากพบว่าหลบหนีจริงศาลฎีกาฯ ก็จะอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยได้ทันที  

พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยืนยันเบื้องต้นว่า จากการตรวจสอบพบว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ไม่ได้อยู่ที่บ้าน และไม่พบหลักฐานการเดินทางออกนอกประเทศผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง อาจเป็นไปได้ว่าเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ ซึ่งมีอยู่จำนวนมากในประเทศไทย ขณะเดียวกันยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าตอนนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ยังอยู่ในประเทศไทยหรืออยู่ต่างประเทศ ไม่ทราบว่าหลบหนีหรือป่วย 

โดยข้อมูลล่าสุดของ สน. ลาดพร้าว พบว่านางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางกลับเข้าบ้านพักย่านโยธินพัฒนา 3 เวลา 14.00 น. ในวันที่ 23 สิงหาคม ส่วนจะออกไปในช่วงเวลาใดนั้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และอื่นๆ ทั้งนี้ยังไม่จำเป็นต้องขอหมายค้นบ้านนางสาวยิ่งลักษณ์ เนื่องจากการขอหมายค้น ต้องมีข้อบ่งชี้ชัดเจนว่ามีผู้ต้องหาอยู่ภายใน แต่ทางสน. ลาดพร้าวเข้าไปสอบถามผู้ที่อยู่ในบ้าน ต่างตอบชัดเจนว่านางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ได้อยู่ที่บ้าน และไม่ทราบว่าเดินทางไปที่ไหน

ทางสตม. ยืนยันว่าไม่พบข้อมูลนางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางออกนอกประเทศผ่านตม. เบื้องต้นนำข้อมูลหมายจับของนางสาวยิ่งลักษณ์ นำเข้าสู่ระบบ PBIG แล้ว 

สำหรับกระแสข่าวที่ระบุว่านางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ ในจังหวัดต่างๆ นั้น จะต้องมีการสอบสวนขยายผลต่อไป ส่วนที่มีข้อมูลว่าหลบหนีไปยังกัมพูชา ผู้ช่วยทูตตำรวจไทยในกัมพูชา ยืนยันแล้วว่า ไม่พบข้อมูลเดินทางเข้า-ออก เบื้องต้นประสานตำรวจสากลผ่านอินเตอร์โพล ที่มีอยู่ 190 ประเทศ ให้ช่วยรายงานข้อมูลหากพบตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งตำรวจที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต เป็นหนึ่งในอินเตอร์โพลด้วย 

กรณีที่มีกระแสข่าวว่านางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนีไปยังเมืองดูไบ เพื่อพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นพี่ชาย ในขั้นตอนนี้ต้องรอให้ตำรวจอินเตอร์โพลรายงานผลกลับมา ส่วนการเพิกถอนหนังสือเดินทางเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่จะต้องสอบถามข้อมูลมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนดำเนินการเพิกถอน 

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังยืนยันว่า ตำรวจไม่มีหน้าที่ติดตามความเคลื่อนไหวอดีตนายกรัฐมนตรีเนื่องจากจะเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ แต่จะสามารถดำเนินการติดตามตัวได้ภายหลังศาลออกหมายจับ ส่วนความเคลื่อนไหวทาง social media ทั้ง facebook บัญชีชื่อนางสาวยิ่งลักษณ์ก็ยังไม่พบความเคลื่อนไหวหลังจากศาลออกหมายจับ 

กระแสข่าวที่มีข้อมูลว่านางสาวยิ่งลักษณ์เข้าพักที่โรงแรมเอสซีปาร์คย่านเลียบด่วนรามอินทราคืนวันที่ 23 สิงหาคมก่อนรุ่งเช้าวันที่ 24 สิงหาคมจะเดินทางไปยังจังหวัดตราดเพื่อข้ามไปยังเกาะช้างออกไปยังประเทศกัมพูชา พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยืนยันว่า เป็นเพียงข้อมูลซึ่งต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง  

ส่วนกรณีจะเรียกพันตำรวจเอกวทัญญู วิทยผโลทัย ผู้ช่วยนายเวร สัญญาบัตร 4 รองผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ มาสอบสวนหาข้อมูลของนางสาวยิ่งลักษณ์ในฐานะที่ทำหน้าที่อารักขาและอยู่ใกล้ชิดกับนางสาวยิ่งลักษณ์หรือไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าพันตำรวจเอกวทัญญูยังอยู่ในราชการหรือไม่หากยังรับราชการก็อาจจะเรียกมาให้ข้อมูลซึ่งเป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล แต่ส่วนตัว ไม่เชื่อว่านางสาวยิ่งลักษณ์จะหลบหนีการฟังคำพิพากษาคดี ซึ่งที่ผ่านมาจากพฤติการณ์ของนางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางมายังศาลทุกนัด จึงไม่คาดคิดว่าจะหลบหนีขณะที่ในส่วนของตำรวจก็ให้น้ำหนักมุ่งเน้นเรื่องของการรักษาความปลอดภัยป้องกันมือที่สามในการก่อเหตุและอำนวยความสะดวกการจราจรเท่านั้น

 

 

///

 

ผสข.ปภาดา พุลสุข