หัวหน้าปชป. ขอไม่นำกฎหมายกับการเมืองมาพิจารณารวมกัน เพราะอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง

หลังจากที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีไม่เดินทางมาฟังคำตัดสินของศาลในคดีรับจำนำข้าว และมีการวิจารณ์ว่าเป็นการปิดตำนานตระกูลชินวัตรทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นว่าเป็นการวิเคราะห์ที่เกินเลย เพราะกระบวนการทางกฎหมายยังไม่สิ้นสุด ศาลยังไม่อ่านคำพิพากษา และนางสาวยิ่งลักษณ์ยังสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ ส่วนอิทธิพลของตระกูลชินวัตรมองว่าเป็นเรื่องทางการเมืองจึงขออย่าเอาเรื่องของกฎหมายและการเมืองมารวมกันเพราะอาจจะเป็นการสร้างความขัดแย้งได้ ส่วนจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านความสมดุลของ 2 พรรคการเมืองใหญ่หรือไม่ คิดว่าจะไม่มีผลกระทบถึงขั้นนั้น เพราะผู้ที่สนับสนุนนางสาวยิ่งลักษณ์ก็ยังคงมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง จึงอยากให้สร้างความเข้าใจที่ชัดเจนว่านี่เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม โดยยกตัวอย่างคดี ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วว่าเป็นการทุจริตในการระบายข้าว ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากนโยบายของรัฐบาล จึงไม่ใช่กระบวนการทางการเมืองแต่เป็นการดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วน กรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ฟังคำพิพากษาตามที่ศาลนัดหมายนั้น ตนเองอยากเห็นบ้านเมืองเดินตามกติกา แต่การที่คดีนี้มีความสลับซับซ้อนทำให้เกิดแง่มุมทางสังคมที่หลากหลาย ซึ่งนอกจากนี้แล้วยังเห็นว่า กระบวนการยุติธรรมยังสะท้อนเรื่องการปรองดอง และการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นด้วย เมื่อถามว่า การที่นางสาวยิ่งลักษณ์หลบหนี จะถือว่าเป็นการไม่ยอมเดินตามกระบวนการยุติธรรมหรือไม่  นายอภิสิทธิ์มองว่า ทางพรรคเพื่อไทยเลือกรับบางกรณี เช่นคดีที่มีการยกฟ้องคดีสลายม็อบเสื้อเหลืองของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ก็จะยอมรับ และเมื่อถามต่อไปว่า หากในอนาคตได้เข้ามาทำหน้าที่ฝ่ายบริหารจะต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบในการออกนโยบายของตนเองด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ยังไม่ขอให้คำตอบในเรื่องนี้ เพราะยังไม่ทราบคำพิพากษาของนางสาวยิ่งลักษณ์จึงพูดถึงเรื่องนั้นไม่ได้

..

ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี