เมียนมาร์เผยเหตุรุนแรงรอบใหม่ในรัฐยะไข่มีคนเสียชีวิต 32 ศพ

เอเอฟพีรายงานอ้างพลเอกมีน ออง ไลง์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพเมียนมาร์ว่า มีคนเสียชีวิต 32 ศพ ในจำนวนนี้รวมคนร้าย 21 ศพ เจ้าหน้าที่ความมั่นคง รวม11 ศพ หลังกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาชื่อว่ากองกำลังกอบกู้ชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ราว 150 คนพร้อมอาวุธปืนและระเบิดบุกโจมตีด่านชายแดนกว่า 20 แห่งในรัฐยะไข่ทางภาคเหนือของประเทศ เมื่อเช้ามืดวันนี้ นับเป็นเหตุรุนแรงที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดในพื้นที่ขัดแย้งดังกล่าวในรอบหลายเดือนมานี้ ส่วนคนร้ายที่เหลือหลบหนีไปได้

ที่ผ่านมาเมียนมาร์มีปัญหาแตกแยกระหว่างชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญา ซึ่งเป็นกลุ่มคนไร้รัฐไร้สัญชาติ กับชาวพุทธของเมียนมาร์ที่มองคนกลุ่มนี้ว่าเป็นชาวบังกลาเทศที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีความตึงเครียดมาอย่างต่อเนื่องในรัฐยะไข่ เกิดเหตุฆาตกรรมแทบทุกวันจากการลงมือของกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ในหมู่บ้านในพื้นที่ห่างไกลในแถบเทือกเขาเมย์ยูใกล้ชายแดนบังกลาเทศ ขณะเดียวกันกองทัพเมียนมาร์สั่งเพิ่มกำลังทหารเข้าไปดูแลความมั่นคงในพื้นที่นั้นเพื่อปราบปรามกลุ่มติดอาวุธ

เหตุรุนแรงครั้งนี้มีขึ้นหลังคณะทำงานของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ที่มีนายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการยูเอ็น เป็นประธาน นำเสนอรายงานเรื่องสถานการณ์ในรัฐยะไข่เมื่อไม่นานมานี้ คณะทำงานของนายอันนันได้เสนอแนะแนวทางการต่างๆในการเยียวยาปัญหาความแตกแยกของสังคมคือการยกเลิกคำสั่งห้ามเคลื่อนไหวและข้อจำกัดเรื่องสัญชาติสำหรับชาวโรฮิงญาราว 1 ล้านคนในรัฐยะไข่/14.43 น.