ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ห้ามเอาอุปกรณ์สื่อสารเข้าฟังคำตัดสินคดีจำนำข้าว/หมอวรงค์ถูกขู่ฆ่า/เชียร์นักกีฬาไทยสู้ศึกซีเกมส์ก่อน

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30  น.

+++การจับตาสถานการณ์ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินคดีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในวันที่ 25 ส.ค.นี้  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บอกว่า ตอนนี้จับจนตาเจ็บแล้ว จับทุกวัน เพราะสื่อเป็นคนบอกเองว่าเดี๋ยวตรงนั้นมีอะไร ตรงนี้มีอะไร สื่อก็ส่งข่าวมาเอง เราก็ต้องจับตากันทุกวัน เสียเวลาจริงๆ เสียสมอง เสียงบประมาณ  ส่วนใครจะเป็นคนห่วง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คนที่จะห่วงก็เป็นประชาชนที่ควรจะห่วงกันเอง รัฐบาลไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่อยากเข้าไปใช้กำลัง ไม่อยากใช้กฎหมาย ผู้ที่ถูกกล่าวหาก็มีวิธีทางในการต่อสู้คดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ สื่ออยู่ในคดีกับเขาด้วยหรือเปล่า ไม่มีก็ไม่ต้องห่วงเขาหรอก แต่ถ้าสื่ออยู่ในก็ห่วง คนไทยทั้งประเทศต้องรับมือด้วยกัน ถ้าบ้านเมืองมันเสียหาย บ้านเมืองมันเปลี่ยนแปลง ประชาชนเป็นผู้เสียประโยชน์ทั้งสิ้น ไม่ใช่ผม

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงมวลชนจะไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า ขอชี้แจงเหมือนเดิม ถ้าจะมาให้กำลังใจสามารถมาได้ แต่อย่ามาป่วนและสร้างความวุ่นวาย ตนไม่กังวลสถานการณ์วันดังกล่าว และไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เพราะสถานการณ์วันดังกล่าวไม่น่ามีอะไร ส่วนทางศาลประสานหน่วยงานความมั่นคงให้พื้นที่บริเวณศาลเป็นพื้นที่พิเศษหรือไม่ ตนคิดว่าไม่ต้อง เพราะพื้นที่บริเวณศาลทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว

ด้าน พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงมวลชนที่จะเดินทางมายังหน้าศาลฎีกาว่า คดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชน น่าจะมีมวลชนมาพอสมควร ประมาณ 2,000-3,000 คน สำหรับงานของ คสช.คือการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของ มีรายงานว่า หน่วยข่าวความมั่นคงได้ประเมินมวลชนที่จะเดินทางมาที่ศาลาฎีกาวันที่ 25 ส.ค.นี้ ประมาณ 2,500-3,000 คน ส่วนใหญ่มาจากในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เช่น จ.นนทบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา  สมุทรปราการ เป็นต้น ประมาณ 1,500-2,000 คน ส่วนภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 1,000 คนขึ้นไป

+++ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะพนักงานสอบสวน เดินทางเข้าประชุมหารือกับนายไพโรจน์ โปเล็ม เลขานุการศาลฎีกา ประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยและเตรียมความพร้อมก่อนจะมีการพิจารณาคดีในวันที่ 25 ส.ค.นี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า ทางศาลได้กำชับให้ดูแลความปลอดภัยบริเวณภายนอกและภายในศาล ทางตำรวจมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ในการดำเนินการ ทั้งนี้ ตำรวจได้ติดกล้องวงจรปิด ภายนอกอาคารจำนวน 88 ภายใน 32 กล้อง รวม 120 กล้อง และกล้องวิทยุดิจิตอล LCE เคลื่อนที่กว่า 100 กล้อง ส่วนการกำหนดพื้นที่บริเวณรอบศาลฎีกาว่าจุดไหนไม่สามารถอยู่ได้ จะมีความชัดเจนอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ซึ่งศาลจะเป็นผู้กำหนด และตำรวจเป็นผู้ปฏิบัติตามที่ร้องขอ ส่วนมือที่สามเบื้องต้นยังไม่ได้รายงานว่าจะมีการเข้ามาก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ประมาท ซึ่งได้สั่งการให้ ปอท.จับตากลุ่มฮาร์ดคอร์แล้วเช่นกันหากวันที่ 25 ส.ค.ศาลได้อ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น มวลชนจะต้องกลับทันที หากไม่กลับจะนำ พ.ร.บ.ชุมนุมเข้ามาใช้ในการดำเนินคดีทางกฎหมายทันที จากนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ได้ตรวจสอบความเรียบร้อยรอบๆ บริเวณศาลฎีกาและบริเวณใกล้เคียง เพื่อสำรวจความเรียบร้อยอย่างละเอียดอีกครั้ง

ล่าสุดองค์คณะได้มีคำสั่งแจ้งคู่ความในคดีและผู้ที่จะเข้าฟังคำพิพากษา 2 สำนวนคดีจำนำข้าวและระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ เวลา 09.00 น. รวมทั้งสื่อมวลชนที่จะเข้าฟังคำตัดสินในห้องพิจารณาคดี ห้ามนำโทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดติดตัวเข้าไปในห้องพิจารณาคดีโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย ขณะที่ในเรื่องการถ่ายทอดเสียงการอ่านคำพิพากษาว่าจะมีหรือไม่นั้น ขณะนี้องค์คณะยังไม่มีคำสั่งในเรื่องนี้

สำหรับความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เช้าวันเดียวกัน ได้โพสต์ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กขณะทำบุญตักบาตรที่บ้านพัก พร้อมข้อความ 'เช้านี้ทำบุญตักบาตรที่บ้าน เอาบุญมาฝากทุกท่านนะคะ' แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ดูสีหน้าแววตาไม่แช่มชื่นนัก ขณะเดียวกันหนังตายังตกเล็กน้อย

มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า ในวันที่ 25 ส.ค. แกนนำพรรค อดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส.ต่างนัดแนะเดินทางไปให้กำลังใจที่บริเวณศาล โดยแนวร่วมจากพรรคแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ส่วนของมวลชนที่จะมาให้กำลังใจนั้น มีการประสานงานให้เดินทางมาแบบกองทัพมด โดยเฉพาะมวลชนที่ต้องเดินทางไกลมาจากต่างจังหวัดในภาคเหนือ ภาคอีสานบางจังหวัด เดินทางมาก่อนวันที่จะมีการตัดสินล่วงหน้า 3-4 วัน โดยนัดหมายมากราบพระบรมศพรัชกาลที่ 9 แล้วแยกกันไปพักตามสถานที่ที่มีการประสานจัดการให้ ก่อนทยอยมาให้กำลังใจในวันที่ 25 ส.ค.

+++ส่วน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เจอจดหมายขู่ปองร้าย ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งน่าสังเกต ในเนื้อหาของจดหมายขู่นี้ใช้พิมพ์ ไม่ใช้ลายมือเขียน และอ้างว่าเป็นคนจากจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน แต่ตราประทับไปรษณีย์กลับเป็นการส่งมาจากพื้นที่ในกรุงเทพฯ เนื้อหาใช้ถ้อยคำหยาบคาย และมีคำด่าสารพัดต่างๆ ถึงตนโดยตรง และมีคำขู่ว่า "มึงเป็นคนกลั่นแกล้งนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ขอให้ช่วงนี้มึงหาเสื้อเกราะหนาๆ มาใส่ ระวังตัวให้ดี"  คณะผู้บริหารพรรคแนะนำให้มาพักผ่อนต่างประเทศ จึงเดินทางมาทวีปแอฟริกาพร้อมภรรยาและเพื่อนๆ ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.นี้ และจะกลับประเทศไทยช่วงปลายเดือน ส.ค. คือให้ผ่านช่วงวันอ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าวไปก่อน ผมก็ไม่ได้กลัวอะไร แต่ไม่ประมาท เพราะได้รับคำเตือนจากผู้ใหญ่ที่รู้จักและเคารพหลายคนในช่วงนี้เช่นเดียวกัน

+++พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะพนักงานสอบสวนคดีความมั่นคง นำสำนวนการสอบสวนคดีระเบิดระเบิดรพ.พระมงกุฎเกล้าฯ และคดีระเบิดตามสถานที่ต่างๆตั้งแต่ปี 2550  รวม 7 สำนวน จำนวน 20 แฟ้ม รวมกว่า 10,000 หน้า พร้อมความเห็นฟ้องส่งมอบให้ นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา อธิบดีอัยการ สำนักงาน มีความเห็นสั่งฟ้อง นายวัฒนา ภุมเรศ ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดรพ.พระมงกุฎเกล้า และตามสถานที่ต่างๆ ใน 5 ข้อหาหลัก  เช่น พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา  และนำชี้จุดเกิดเหตุ ส่วนจะมีผู้ร่วมก่อเหตุหรือไม่ ในชั้นสอบสวน ยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยง  แต่ยืนยันว่าหากพนักงานอัยการ มีความเห็นให้สอบเพิ่มเติมจุดใดก็พร้อมดำเนินการให้เสร็จภายใน 3 วัน   ด้านนายณัฐจักร กล่าวว่า หลังจากนี้จะตั้งคณะพนักงานอัยการรวม 5 คน ขึ้นมาพิจารณาเป็นพิเศษ มีตนเป็นหัวหน้า พร้อมมอบหมายรองอธิบดีเข้ามาช่วยเจ้าของสำนวนเพื่อพิจารณา โดยจะพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบและเสร็จสิ้นตามกำหนดฝากขัง ยืนยันยังคงแนวทางการคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เพราะเกรงว่าหากปล่อยตัวจะหลบหนีและยืนยันว่าหากมีการร้องขอความเป็นธรรมตามระเบียบ ไม่ใช่เหตุในการชะลอการพิจารณาคดี  สำหรับสำนวนคดีระเบิด 7 สำนวน ประกอบด้วย เหตุระเบิด 6 จุด ประกอบด้วย เหตุวางระเบิดในตู้โทรศัพท์ หน้าห้างเมเจอร์รัชโยธิน  วันที่ 9 เม.ย.ปี 2550, เหตุวางระเบิดตู้โทรศัพท์ปากซอยราชวิถี 24 วันที่  8 พ.ค.2550 , เหตุวางระเบิดหน้า กรมแผนที่ทหารบกข้างบก.ทบ. วันที่ 30 ก.ย.2550, เหตุวางระเบิดหน้ากองสลากเก่าถนนราชดำเนิน  วันที่  5 เม.ย.ปี 2560, เหตุวางระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ    วันที่ 15 พ.ค. ปี 2560, เหตุวางระเบิดรพ.พระมงกุฎเกล้า  วันที่ 22 พ.ค. ปี 2560 และพบวัตถุระเบิดพร้อมอุปกรณ์จากการเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายวัฒนาหลังถูกจับกุม  

+++นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาเพื่อนำไปสู่การปลดธงแดงขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยืนยันว่ายังเดินไปตาม โรดแมพที่วางไว้ โดยเดือนกันยายนนี้จะมีการเชิญ ICAO เข้ามาตรวจมาตรฐานซ้ำและหลังจากการตรวจก็จะทราบผลการแก้ไขปัญหาธงแดงภายใน 60 วัน หรือไม่เกินเดือนพฤศจิกายนปีนี้ โดยกระทรวงคมนาคมคาดหวังว่าจะมีข่าวดี เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามกรอบที่ ICAO วางไว้ โดยเฉพาะการตรวจเพื่อออกใบอนุญาตเดินอากาศใหม่ให้แก่สายการบิน 28 แห่ง ซึ่งขณะนี้ได้มีการมอบ AOC ใหม่ให้แก่สายการบิน 8 แห่งและเชื่อว่าจะมีสายการบินรวม 25 แห่งที่สามารถตรวจมาตรฐานได้รับ AOC ใหม่

+++ผลงานของทัพนักกีฬาไทยเริ่มดีขึ้นคว้าเหรียญมาให้แฟน ๆ กีฬาชาวไทยได้ชื่นชมกันต่อเนื่องทั้งเหรียญทอง เหรียญเงิน และทองแดงตอนนี้เราอยู่อันดับ 4 ทำได้ 17 ทอง ส่วนวันนี้ ต้องเชียร์หลายชนิดกีฬา เช่น มวยสากล เราเข้าชิงเหรียญทอง 5 รุ่นเลย ฟุตบอลหญิงชิงเหรียญทอง ไทยและเวียดนาม ใครจะชนะคู่แข่ง ทำประตูได้มากกว่ากัน จะคว้าเหรียญทอง กรีฑา ชิง 9เหรียญทอง วอลเล่ย์บอลหญิงไทยเจอกับเมียนมาร์ ส่วนทีมชายพบเจ้าภาพมาเลเซีย