ชาวต.ท่าสุด จ.เชียงรายได้รับประโยชน์จากอ่างเก็บน้ำแม่ข้าวต้มท่าสุด อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

การทำเรื่องถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช หลังได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำ โดยในวันนี้กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่มายัง บ้านแม่ข้าวต้มท่าสุด หมู่ 10 ตำบลท่าสุด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับพระราชทานอ่างเก็บน้ำแม่ข้าวต้มท่าสุด อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
นายศรีล้วน ศรีบุรี อดีตกำนันตำบลท่าสุด ผู้ทำเรื่องถวายฎีกาขอพระราชทานอ่างเก็บน้ำ เล่าว่า ในอดีตชาวบ้านจะใช้น้ำตามมีตามเกิด จากลำห้วยและจากฝาย  ซึ่งมีความแห้งแล้งไม่เพียงพอต่อการทำไร่ทำนา จึงได้มีการประชุมร่วมกัน เพื่อนำรายชื่อประชาชนที่มีส่วนได้รับผลกระทบ จำนวน 2,000 กว่ารายชื่อ ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ขอพระราชทานอ่างเก็บน้ำ โดยทำหนังสือไปยังสำนักราชเลขา เมื่อปี 2532 ผ่านมาประมาณ 5 ปี จึงได้รับคำตอบจากกรมชลประทานจังหวัดเชียงราย ว่ามีมติให้ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ในงบประมาณ 9,000,000-10,000,000 บาท ได้รับประโยชน์ครอบคลุมพื้นที่ 6 หมู่บ้านในตำบลท่าสุด เพื่อนำน้ำไปใช้ทำการเกษตร อุปโภคบริโภค ทำเป็นน้ำดื่มเพื่อจำหน่ายบ้างในบางส่วน โดยจะมีคณะกรรมการผู้ใช้น้ำ เป็นผู้ดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำและใช้น้ำร่วมกันตามกฎกติกาที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งเมื่อทำเรื่องไป ความคิดของชาวบ้านก็ไม่คาดคิดว่าจะได้รับพระราชทาน จนมีหนังสือตอบกลับมา นับเป็นความปลื้มปิติของชาวบ้านทุกคนอย่างมาก นายศรีล้วน เล่าถึงความรู้สึก ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ว่า พระองค์ท่านเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทำให้ชาวบ้านชั้นรากหญ้า ที่ไม่เคยเห็นพระองค์ท่าน เคยเห็นเพียงผ่านหน้าจอโทรทัศน์หรือทางวิทยุเมื่อถึงวันปีใหม่ที่พระองค์อวยพรให้กับประชาชน ได้รับพระราชทานอ่างเก็บน้ำ ซึ่งพระองค์คงจะทราบว่าชาวบ้านธรรมดาๆ มีความนึกถึงพระองค์เสมอ และในวันนี้ทุกคนต่างมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากน้ำพระทัยของพระองค์ที่ทรงเมตตาให้กับประชาชน
สำหรับอ่างเก็บน้ำแม่ข้าวต้มท่าสุด อันเนื่องมาจากพระราชดำรินี้ มีพื้นที่รับน้ำฝน 7.00 ตารางกิโลเมตร ปริมาณน้ำทั้งปีที่ไหลลงอ่างอยู่ที่ 4.004 ล้านลูกบาศก์เมตร ความจุอ่างเก็บน้ำที่ระดับเก็บกักอยู่ที่ 520,000 ลูกบาศก์เมตร
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม