ตำรวจสรุปผลจับกุม"5จริง"และ"5จอม" พรุ่งนี้เดินหน้าจับกุม"จอมแชท"

04 สิงหาคม 2557, 13:12น.


พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. เปิดเผยผลการดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาจราจร เริ่มจากนโยบาย 5 จริง ช่วงวันที่ 9 มิ.ย.-31 ก.ค. จับกุมผู้กระทำความผิดทั่วประเทศ 570,272 ราย มากที่สุดคือการล็อคล้อรถที่จอดในที่ห้ามจอด 83,171 คัน ส่วนกทม.จับกุมได้ 178,615 ราย ความล็อคล้อมากที่สุด 26,050 คัน ส่วนนโยบาย 5 จอม ช่วงวันที่ 17-31 ก.ค.จับกุมผู้กระทำความผิดทั่วประเทศ 73,778 ราย มากที่สุด จอมล้ำ 22,602 คัน จอมย้อน 19,773 คัน จอมปาด 17,815 คัน จอมขวาง 9,431 คัน และจอมปลอม 4,257 คัน ส่วนเขตกทม. จับกุมได้ 23,108 คัน ประกอบด้วย จอมล้ำ 8,929 คัน จอมปาด 5,668 คัน จอมย้อน 4,577 คัน จอมขวาง 2,252 คัน และจอมปลอม 1,682 คัน


พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษาสบ.10 กล่าวว่า ผลการปฏิบัติถือเป็นที่น่าพอใจ สะท้อนจากแนวโน้มการจับกุมลดลงทุกวัน ประชาชนเคารพกฏจราจรมากขึ้น กระแสการจราจรช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้าดีขึ้นร้อยละ 25 ตอนเย็นดีขึ้นร้อยละ 31 ส่วนคำถามที่ประชาชนยังเห็นว่าหลายจุดยังพบผู้กระทำความผิดอยู่ ยอมรับว่าไม่สามารถจัดตำรวจจราจรไปประจำทุกจุดได้ แต่จะใช้วิธีส่งใบสั่งไปที่บ้านโดยการบันทึกหลักฐานการกระทำความผิดด้วยกล้องวงจรปิดแทน


นอกจากนี้ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้(5ส.ค.)เป็นต้นไป ตำรวจจะเริ่มดำเนินมาตรการจับกุม"จอมแชท" หรือการจับกุมผู้ขับขี่ที่ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งการแชทและคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ ตามความผิดพ.ร.บ.จราจรทางบก มีโทษปรับ 400-1,000 บาท ยกเว้นมีอุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา เช่น สมอลล์ทอล์ค และบลูทูธ ทั้งนี้พบว่าปัจจุบันมีการดัดแปลงที่ตั้งมือถือ(สแตนดี้) ที่ใช้ในการติดตั้งอุปกรณ์นำทางจีพีเอส มาติดตั้งที่พวงมาลัยรถเพื่อใช้ในการแชทแทน กรณีนี้ถือว่ามีความผิดเช่นกัน เพราะเป็นการรบกวนสมาธิในการขับรถ เนื่องจากต้องละสายตาจากท้องถนนและต้องละมือไปพิมพ์ข้อความโต้ตอบ ยกเว้นหากใช้แสตนดี้ในการเปิดลำโพงคุยโทรศัพท์เพื่อความจำเป็น กรณีนี้ไม่มีความผิด คล้ายกับการใช้สมอลล์ทอล์ค ทั้งนี้ผลการวิจัยของสหรัฐอเมริกา พบว่าการใช้โทรศัพท์มือขณะขับรถยนต์ มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้มากถึงร้อยละ 50


 


...ผสข.อภิสุข เวทย์วิศิษฐ์
ข่าวทั้งหมด

X